SCC ประกาศดีลใหญ่!!
ส่ง SCGC ร่วมทุนยักษ์ญี่ปุ่น ถือหุ้น 40%
เตรียมต่อยอดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรถยนต์ EV

.
SCC ส่ง SCGC ร่วมลงทุนตามสัญญาร่วมทุนกับบริษัท Denka Company Limited หรือ Denka ประเทศญี่ปุ่น เพื่อจัดตั้งบริษัทสำหรับธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอะเซทิลีนแบล็ก เข้าถือหุ้น 40% โดย การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนี้จะส่งเสริมให้ SCGC สามารถก้าวเข้าสู่ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มความต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
.
บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC รายงานว่า บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าร่วมลงทุนตามสัญญาร่วมทุนกับบริษัท Denka Company Limited หรือ Denka ประเทศญี่ปุ่น เพื่อจัดตั้งบริษัทสำหรับธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอะเซทิลีนแบล็ก (Acetylene black) (บริษัทร่วมทุน)
.
โดย Denka จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 60 และส่วนที่เหลือร้อยละ 40 จะถือหุ้นโดย SCGC ซึ่งโครงการนี้จัดตั้งขึ้นในจังหวัดระยอง ประเทศไทย มีกำลังการผลิตประมาณ 11,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตได้ภายในต้นปี 2568 ทั้งนี้รายละเอียดการลงทุนจะเป็นไปตามการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในต้นปี 2566
.
Denka เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตอะเซทิลีนแบล็ค ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นหลัก รวมถึงสามารถนำไปใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยวัตถุดิบที่ได้จาก SCGC (Ethylene, Acetylene และ Ethane) นั้น จะจัดหาโดยโรงงาน Olefins ของ SCGC ในการผลิตอะเซทิลีนแบล็คของ Denka (DENKA BLACK) ซึ่งเป็นคาร์บอนเบล็คชนิดพิเศษมีคุณสมบัติที่่มีความบริสุทธิ์สูง และนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม
.
การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนี้จะส่งเสริมให้ SCGC สามารถก้าวเข้าสู่ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มความต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ SCGC ในการยกระดับธุรกิจสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value-Added หรือ HVA) และเสริมสร้างการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพื่อรองรับเมกะเทรนด์ การร่วมทุนกับ Denka จะช่วยเน้นย้ำจุดยืนของ SCGC ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์ด้วยความสำเร็จมาแล้วหลายทศวรรษกับพันธมิตรระดับโลก
.
สำหรับ Denka เป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี โดยมีแผนธุรกิจในระยะกลางที่มุ่งเน้นความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงโดยเฉพาะในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
.
นอกจากนี้ Denka ยังให้ความสำคัญกับการบริหารงานด้าน ESG เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ทั้งนี้ ในปี 2564 Denka มีรายได้สุทธิประมาณ 113,000 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 7,700 ล้านบาท และสินทรัพย์รวมประมาณ 164,000 ล้านบาท
.
SCGC เป็นบริษัทผู้นำด้านธุรกิจเคมิคอลส์ในภูมิภาคอาเซียน ประกอบธุรกิจในประเทศไทย อินโดนีเซียและเวียดนาม โดยมี 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. ผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน 2.มุ่งขยายและสร้างความแข็งแกร่งเพื่อเป็นผู้ประกอบธุรกิจไวนิล (Vinyl) ครบวงจร
3.เป็นผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลกโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green polymer) และ 4.พัฒนาและเร่งการเติบโตของสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) ทั้งนี้ การลงทุนของ SCGC มีการพิจารณาผลตอบแทนของทุกโครงการตลอดช่วงระยะวัฏจักรของปิโตรเคมี (over the cycle)