คิดเป็น เห็นก่อน

ตลาดหุ้น...แหล่งแสวงหาโอกาสของนักสู้

ตลาดเริ่มมีการพักฐานปรับฐาน Set Index แกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ นักลงทุนเริ่มสลับเข้าเล่นหุ้นเก็งกำไร โดยหันไปซื้อหุ้นขนาดกลางมากขึ้น จึงทำให้หุ้นขนาดใหญ่เริ่มนิ่ง  แต่โดยภาพรวมแล้วตลาดยังดูแข็งแกร่ง แม้จะเผชิญแรงขายออกมาในหุ้นตัวใหญ่บ้างก็ตาม อย่างไรก็ดีด้วยแนวโน้มตลาดที่ยังดูสดใส นักลงทุนที่มีเงินสดในมือ อาจจะอาศัยจังหวะช่วงตลาดพักฐานเข้าเก็บสะสมหุ้นที่ราคามีการปรับตัวลงมา หรือราคายังขึ้นมาน้อยเมื่อเทียบกับ Set Index ที่ปรับขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี พีอีต่ำก็ยังน่าสนใจ

ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC)  รอบล่าสุด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดไว้ที่ระดับ 1.00-1.25%  และมีความชัดเจนเรื่องการปรับลดงบดุลที่จะเริ่มในเดือนตุลาคม แต่สิ่งที่เกินคาดเล็กน้อยคือการส่งสัญญาณท่าทีถึงโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จึงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเป็นปัจจัยลบ ต่อ Fund Flow ไหลออกจากภูมิภาคในระยะสั้น สอดคล้องกับการขายหุ้นทำกำไรของต่างชาติออกมาและชะลอการลงทุนลงบางส่วน ซึ่งคงจะกดดันตลาดได้ในระยะสั้น

ความเชื่อมั่นที่ว่าตลาดหุ้นไทยจะเดินหน้าไปต่อยังมีอยู่เต็มเปี่ยม อีกไม่นานก็ 1700 ,1800 ,1900 และ 2000 จุดได้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร ยามที่ตลาดมีความคาดหวังในเชิงบวก ซึ่งจะส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนให้เกิดการคล้อยตามกันได้ไม่ยาก อย่างที่เราเห็นกันหุ้นใหญ่ถูกขาย ก็จะมีหุ้นกลางที่พื้นฐานดีเข้ามาช่วยพยุงตลาดไม่ให้อ่อนยุบลงมากเกินไป นอกจากนี้ นักลงทุนจะเริ่มมองไปถึงเรื่องผลประกอบการไตรมาส 3/60 ที่จะเริ่มประกาศกันออกมาในช่วงกลางเดือนหน้าในกลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มแรก ถือเป็นปัจจัยที่นักลงทุนจะใช้เป็นเหตุผลประกอบสำคัญในการเข้าลงทุน รวมถึงความคาดหวังในการทำ Window Dressing ของสถาบันในช่วงสิ้นเดือนนี้ โดยเฉพาะหุ้นที่ราคายังปรับตัวขึ้นมาไม่มากได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราต้องเรียนรู้จากการปรับตัวขึ้นมาของตลาดรอบนี้   คือเราได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากกว่า หรือเท่ากับ หรือแย่กว่าตลาดหรือไม่  หุ้นที่เราลงทุนถูกตัวหรือไม่ การที่ตลาดจะขึ้นไปกี่จุดคงไม่สำคัญเท่าเหตุผลที่เราเข้าไปลงทุน ด้วยเชื่อมั่นในพื้นฐานของหุ้นน่าจะยังมีทิศทางที่สดใส หากไม่ใช่ก็ต้องมีวินัย ตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ต่อการลงทุนของเราให้ได้มากที่สุด

ตลาดหุ้นบ้านเราก็ยังเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน แม้จะมีการปรับตัวขยับขึ้นลงตามจังหวะในแต่ละช่วงที่มีการแกว่งตัวรุนแรงบ้างก็ตาม ภาวะของตลาดหุ้นดังที่ว่า นักลงทุนที่มีประสบการณ์ พร้อมทั้งเงินทุนความรู้ จะสามารถตักตวงทำมาหากำไรจากตลาดหุ้นได้ ในขณะเดียวนักลงทุนที่เข้าออก ซื้อขายผิดจังหวะก็มีสิทธิที่จะพลาดท่าเสียทีกับการสู้หุ้นได้เช่นกัน ดังนั้นการลงทุนสู้กับหุ้นช่วงนี้จึงต้องมีการวางแผนกำหนดกรอบการลงทุนจับจังหวะการเคลื่อนไหวของตลาดให้ได้ ขึ้นก็ขาย ลงก็ซื้อครับ

หุ้นดีๆ มีอยู่มากมายในตลาดหุ้นไทย ทั้งพื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นหุ้นที่มีพีอีต่ำ มีปันผลตอบแทนที่สูง มีทิศทางการเติบโตที่ดี นักลงทุนต่างชาติเก็บ กองทุนก็สนใจ  ก็คงจะหนีไม่พ้นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ ๆ เช่นหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มแบงก์ กลุ่มสื่อสาร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว เป็นต้น  เพื่อการลงทุนที่ดีต่อไปอย่างแน่นอนครับ หากภาวะตลาดหุ้นเอื้ออำนวย ด้วยปัจจัยกระทบในเชิงบวกที่พร้อมหนุนนำ เมื่อนั้นตลาดหุ้นจะเป็นแหล่งสร้างโอกาสที่ดีให้กับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนคืนกลับที่งดงามได้ครับ