1 มิถุนายน 2563 -- WEEKLY STRATEGY : บล.โนมูระ พัฒนสิน
WEEKLY STRATEGY
ECB Meeting in Focus
Top Picks: BH, BDMS, SPA
- Weekly outlook: “Sideway” ต้าน 1358/1370 จุด รับ 1323/1313จุด
- สัปดาห์นี้คาดตลาดหุ้นไทย ‘Sideway’ ปัจจัยที่ยังคงเป็นแรงกดดันต่อตลาด คือความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่เพิ่มขึ้น หลัง NPC จีนมีมติผ่านร่างกฏหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งจะให้อำนาจจีนในการจัดการกับการกระทำที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ โดยรวมถึงการประท้วง การก่อการร้ายต่างๆ โดยการผ่านร่างดังกล่าว สร้างความไม่พอใจต่อสหรัฐฯ เนื่องจากสหรัฐฯมองว่าฮ่องกงไม่ได้มีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองจากจีนอีกต่อไป ซึ่งอาจกระทบต่อสถานะพิเศษของฮ่องกง โดยปัจจุบันฮ่องกงได้รับการยกเว้นภาษีต่อสินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ นอกจากนี้ ปธน. Trump เผยจะประกาศนโยบายฉบับใหม่ของสหรัฐฯที่จะดำเนินการกับจีน ทำให้อุณหภูมิทางการเมืองสูงขึ้น อาจนำไปสู่การใช้มาตรการทางค้าในการตอบโต้ได้ ทำให้จิตวิทยาการลงทุนได้รับแรงกดดัน ส่วนปัจจัยภายใน การผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เฟส 3 มีรายละเอียดดังนี้
1. สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้
2. ห้างสรรพสินค้า เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 21.00 น.
3. ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม จำกัดพื้นที่รวมไม่เกิน 2หมื่นตรม. และเปิดถึง 21.00 น.
4. ร้านตัดผม สามารถทำสีผมได้ โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม.
5. เปิดสนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง
6. เปิดคลินิกเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง สามารถทำที่ใบหน้าได้
7. เปิดสปา และนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า แต่ยังต้องงดการอบตัว อบสมุนไพร อบไอน้ำแบบรวม และนวดใบหน้า
8. สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส จำกัดจำนวนผู้เล่นแบบรวมกลุ่ม
9. เปิดโรงภาพยนตร์ แต่ต้องมีผู้เข้าชมไม่เกิน 200 คน และนั่งเว้นระยะห่าง
10. เปิดสถานที่สันทนาการ เช่น สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สถาบันลีลาศสระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำ และสวนสัตว์
นอกจากนี้ มีการปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23:00-03:00 น. ซึ่งการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ใกล้จะกลับมาดำเนินได้เต็มรูปแบบ เพิ่มความคาดหวังบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไปได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม คือ การประชุม ECB 4 มิ.ย. Nomura คาดคงดอกเบี้ย depo rate ที่ -0.50% แต่จะประกาศว่าจะเพิ่มวงเงิน PPEP จาก €750bn อีกอย่างน้อย €250bn (เป็นไปได้ว่าจะเพิ่มอีก €500bn) ทำให้วงเงิน PPEP จะอยู่ที่ €1-1.25 trn (8.5% ถึง 10.5% ของ GDP ของ euro area)
- กลยุทธ์การลงทุน: ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนกดดันจิตวิทยาการลงทุน ประเมินตลาดเป็น Sideway ขณะที่วางจุดกระชับพอร์ตที่ 1317/1300/1280 จุด ส่วนพอร์ตลงทุนเชิง Tactical แนะนำลดน้ำหนักหุ้นเหลือเพียง 30% และกลยุทธ์ระยะยาวที่เหมาะสมตอนนี้ คือ DCA ตั้งรับ Sustainable Business สม่ำเสมอทุกๆ เดือน แนะนำ ADVANC, AOT, CPALL, CPF, BEM, BDMS, HMPRO, KTC, TASCO
- หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ BH, BDMS, SPA ส่วนสัปดาห์ก่อน ADVANC, BAM, BEM ให้ผลตอบแทน 2.77 แย่กว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 2.98 %
BH(TP118) : 2H20 ฟื้นตัวจากการทยอยปลดล็อคการเดินทางระหว่างประเทศ
BDMS(TP19.7) : ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่ Laggard หุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่น
SPA(Trad): รัฐคลาย Lockdown เฟส 3 ให้สปากลับมาเปิดได้