เมื่อ “ตลาดชิป” ไม่ได้เติบโตเท่ากัน: ใครคือโอกาส? ใครคือความเสี่ยง?
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ถ้ามีใครพูดว่า “หุ้น Nvidia จะขึ้น 1,500%” คงมีคนหัวเราะ แต่วันนี้มันเกิดขึ้นจริงแล้ว
ในขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Intel กลับถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ราคาหุ้น -57.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน รายได้ติดลบ และมาร์จิ้นหดตัวอย่างต่อเนื่อง
ภาพนี้สะท้อนอะไร?

“สองโลก” ของอุตสาหกรรมชิป
ข้อมูลจาก Visual Capitalist เปรียบเทียบ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกาในปี 2024 ได้แก่:
• Nvidia
• Intel
• Broadcom
• Qualcomm
• AMD
แต่ตัวเลขกลับชี้ว่า “ไม่ใช่ทุกบริษัทชิปจะเติบโตเท่ากัน” และนี่คือ 3 ประเด็นที่เราควรจับตา:
..
โลกของ AI vs โลกของ Legacy
• Nvidia คือเจ้าตลาด GPU ที่กำลังขับเคลื่อน AI โลกทั้งใบ รายได้ $130.5B โต 114.2% YoY กำไรสุทธิ 55.9% และหุ้นพุ่งทะยานถึง 1,505% ใน 5 ปี
• Intel ยังยึดธุรกิจเก่า (PC/Server) รายได้ลดลง -2.1% YoY ขาดทุนหนัก หุ้นร่วง -57.3%
ถ้า AI คือ “กระแสใหม่” Nvidia ก็คือผู้นำที่อยู่ถูกที่ ถูกเวลา ขณะที่ Intel กำลังเผชิญ “วิกฤตอัตลักษณ์” ว่าจะตามทันหรือไม่
Broadcom กับเกม M&A และ Cash Flow
• Broadcom อาจไม่ได้โตแรงแบบ Nvidia แต่กำไรดีสม่ำเสมอ (Net Margin 12%) และ 5 ปีหุ้นขึ้นถึง 901%
• จุดแข็งอยู่ที่การซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ เช่น VMware และการครองตลาด Network/Infrastructure
Broadcom จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ชอบ “หุ้นมั่นคงที่ยังโตได้” มากกว่าเติบโตหวือหวาแบบ Nvidia
Qualcomm & AMD: กลางๆ แบบมีอนาคต?
• Qualcomm เติบโตช้า รายได้โต 8.8% Margin 25.9% แต่ยังคงเป็นเบอร์ใหญ่ในตลาด Mobile และ IoT
• AMD อยู่กึ่งกลางระหว่าง Nvidia กับ Intel ยังโต (13.7%) แต่ Margin และการ Scale ยังห่าง
ทั้งสองบริษัทนี้อาจไม่ใช่ดาวเด่น แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็น “ขุมพลังเงียบ” ที่อยู่ใน Ecosystem สำคัญของ AI, Gaming และ Mobile
..
ถ้าวันนี้ต้องเลือก? Tech Stock ในกลุ่ม Semiconductors
ในโลกของชิปและ AI ที่ร้อนแรงที่สุดตอนนี้ มีอยู่ไม่กี่บริษัทที่เป็นตัวเลือกสำคัญของนักลงทุนทั่วโลก แต่ละรายมีจุดเด่นเฉพาะตัว พร้อมความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจก่อนตัดสินใจ
1. Nvidia (NVDA)
• จุดเด่น:
ราชาแห่ง AI GPU
เติบโตเร็วมาก รายได้-กำไรโตเป็นเท่าตัว
Gross Margin สูงกว่า 70%
• ความเสี่ยง:
Valuation แพงระดับโลก (P/E สูง)
ราคาผันผวนแรงตามกระแส AI
ขึ้นอยู่กับลูกค้าไม่กี่ราย เช่น Microsoft / AWS
..
2. Intel (INTC)
• จุดเด่น:
บริษัทเก่าที่มีขนาดใหญ่
ลงทุนหนักด้าน R&D และ Fab (โรงงานผลิตเอง)
ได้รับสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ (CHIPS Act)
• ความเสี่ยง:
เติบโตช้า / ขาดทุนบ่อย
ส่วนแบ่งการตลาดลดลง (เสียให้ AMD / Apple)
Margin ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
..
3. Broadcom (AVGO)
• จุดเด่น:
กระแสเงินสดแข็งแกร่ง
ธุรกิจมีความสม่ำเสมอ กำไรดี
Diversify รายได้ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ (VMware)
• ความเสี่ยง:
การเติบโตอาจเริ่มช้าลง
พึ่งพาการซื้อกิจการ (M&A) เพื่อขยายธุรกิจ
หนี้สินสูงขึ้นหลังดีลใหญ่
..
4. Qualcomm (QCOM)
• จุดเด่น:
แข็งแกร่งในตลาด Mobile / IoT
ได้เปรียบด้านสิทธิบัตร 5G
Margin กลาง ๆ ประคองธุรกิจได้
• ความเสี่ยง:
โตไม่เร็ว
พึ่งพาคู่ค้ารายใหญ่ เช่น Apple / Samsung
ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนเทคโนโลยี (เช่น ARM / RISC-V)
..
5. AMD
• จุดเด่น:
เจาะตลาด AI / Gaming / Data Center
โตเร็วในบาง Segment
เทคโนโลยีชิปก้าวหน้า แข่งกับ Intel ได้ดี
• ความเสี่ยง:
แข่งขันรุนแรงกับ Nvidia และ Intel
ต้องพึ่งการผลิตจาก TSMC
Margin ยังต่ำกว่า NVDA
..
บทสรุป: ชิปแต่ละตัว คนละเกม
หากมองหา “ดาวรุ่งแห่ง AI” → Nvidia นำหน้าด้วยพลังการเติบโตและเทคโนโลยีล้ำ
แต่หากอยากได้หุ้น “สายอนุรักษ์นิยม มีกำไรสม่ำเสมอ” → Broadcom อาจตอบโจทย์กว่า
ส่วน Intel และ Qualcomm เหมาะกับผู้ที่มองการฟื้นตัวระยะยาว และ AMD คือม้ามืดที่ยังมีโอกาสให้วิ่ง
คำถามคือ…คุณพร้อมลงทุนในอนาคตแบบไหน?
ที่มา.. หุ้นพอร์ทระเบิด