ห้องเม่าปีกเหล็ก

PTTEP อีกหนึ่งหุ้นพลังงานคาดให้ผลตอบแทนสูงถึง 6%

โดย Edrink
เผยแพร่ :
475 views

PTTEP อีกหนึ่งหุ้นพลังงานปันผลดี

คาดปี 66 ให้ผลตอบแทนสูงถึง 6%

 

.

แม้หุ้นพลังงานจะเป็นหุ้นที่มีความผันผวนตามราคาพลังงานในตลาดโลก และอาจไม่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว แต่ PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในหุ้นพลังงานที่มีประวัติจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ และให้อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ในระดับที่ดีไม่แพ้หุ้นกลุ่มการเงินหรือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนักลงทุนนิยมเลือกลงทุนในธีมหุ้นปันผล

.

โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน PTTEP มีอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 6.49% และติดอยู่ในลำดับที่ 4 ของดัชนี SETHD หรือ SET High Dividend 30 Index ดัชนีที่สะท้อนความเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอและมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง

.

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า PTTEP มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2565 บริษัทจ่ายเงินปันผลไปทั้งหมด 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 27.25 บาท ล่าสุดบริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดผลประกอบการปี 2565 ที่เหลืออีกในอัตราหุ้นละ 5 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้วในวันที่ 14 ก.พ. 66 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 เม.ย. 66

.

ทั้งนี้ ปัจจุบัน PTTEP มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ 565,722.92 ล้านบาท และมี P/E อยู่ที่ระดับ 7.98 เท่า (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มี.ค. 2566) โดยราคาหุ้นวันที่ 23 มี.ค. 66 อยู่ที่ 142.50 บาท ปรับตัวลดลง 19.26% จากช่วงต้นปี

.

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์ว่าปี 2566 บริษัทจะจ่ายเงินปันผลที่ 8.21 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 5.8% ส่วนปี 2567 คาดจะจ่ายเงินปันผลที่ 7.04 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 5%

.

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงาน ฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 – 2567 ที่ 7.2 หมื่นล้านบาท และ 6.2 หมื่นล้านบาท ตามลาดับ บนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 85 เหรียญฯต่อบาร์เรล และ 70 เหรียญฯต่อบาร์เรล ตามลำดับ (สมมติฐานปี 2566 ของตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่ 80-90 เหรียญฯต่อบาร์เรล ใกล้เคียงเทียบกับต้นไตรมาส 1/66 จนถึงปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 81 เหรียญฯต่อบาร์เรล)

.

ทั้งนี้ กรณีเศรษฐกิจโลกอ่อนแอกว่าคาด โดยเฉพาะปี 2567 อาจทำให้สมมติฐานราคาน้ำมันของ Consensus ปี 2567 ที่ 75-85 เหรียญฯต่อบาร์เรล มี Downside (ฝ่ายวิเคราะห์ใช้สมมติฐาน 70 เหรียญฯต่อบาร์เรล และปัจจุบันอยู่ที่ 77 เหรียญฯต่อบาร์เรล) ประเมิน Sensitivity ราคาน้ำมันทุก 1 เหรียญฯต่อบาร์เรล จะส่งผลต่อกำไร 830 ล้านบาท

.

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เรือกักเก็บปิโตรเลียมเบญจมาศ 2 ซึ่งเป็นเรือเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด มีปริมาณน้ำมันดิบ 4 แสนบาร์เรล เกิดอุบัติเหตุขณะซ่อมบำรุง ทำให้การผลิตปิโตรเลียมที่แหล่งเบญจมาศต้องหยุดชะงักเพราะไม่มีที่เก็บน้ามัน ซึ่ง PTTEP มีสัดส่วนลงทุน 25% กระทบการผลิต 5kboed หรือราว 1% ของสมมติฐานการผลิตต่อวัน เบื้องต้นคาดหยุดผลิตไม่นาน ผลกระทบจำกัด แต่ต้องติดตามความเสี่ยงกรณีน้ำมันรั่วไหลหรือหยุดผลิตนานกว่าคาด

.

ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ TRADING สำหรับเก็งกำไรระยะสั้นกรณีราคาน้ำมันรีบาวด์ ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ที่ 160.00 บาท (เดิม 176.00 บาท) อย่างไรก็ตาม หากลงทุนระยะกลาง – ยาว มองว่ายังไม่ต้องรีบเข้าซื้อ เนื่องจาก 1. แนวโน้มกำไรผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว คาดกำไรรายไตรมาสลดลงตามการปรับสัญญาราคาก๊าซ, 2. เป็นหุ้น Commodity Play ที่มีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกผันผวน และ 3. โอกาสถูกตลาด Downgrade หลังราคาพลังงานปรับฐานเริ่มทำให้สมมติฐานราคาน้ามันมีความเสี่ยง

 

 


Edrink