ห้องเม่าปีกเหล็ก

สรุปรายได้ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 6 หุ้นเหมืองคริปโทฯ

โดย Analog
เผยแพร่ :
114 views

สรุปรายได้ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 6 หุ้นเหมืองคริปโทฯ JTS โชว์บันทึกรายได้ 23 ล้านบาท ส่วน UPA ถือครองบิทคอยน์มากสุดถึง 137 เหรียญ

 

ประกาศผลประกอบการกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่แตกไลน์กระจายธุรกิจไปยังธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทเหมืองขุดบิทคอยน์ โดยในครั้งนี้ Wealthy Thai จะพานักลงทุนไปสำรวจกันว่า เหล่าหุ้นที่แก๊งค์ขุดเหมืองบิทคอยน์ในงวดไตรมาส 2/65 นั้น พวกเขาจะมีรายได้จากธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลกันเท่าไหร่บ้าง และหุ้นไหนที่ขุดบิทคอยน์และถือบิทคยอน์อยู่ในมือมากที่สุด



JTS ตุนบิทคอยน์ในมือ 22.23 เหรียญบิทคอยน์

โดยเริ่มกันที่หุ้น JTS ซึ่งถือว่าเป็นพี่ใหญ่เลยก็ว่าหลังจากที่เป็นผู้ประกาศตัวบริษัทแรกๆว่าจะลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ โดย JTS รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ในงวดไตรมาส 2/65 มีรายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ จำนวน 22.23117666 เหรียญบิทคอยน์ คิดเป็นเงิน 23.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจํานวน 3.62085540 เหรียญบิทคอยน์ คิดเป็นเหรียญบิทคอยน์เพิ่มขึ้น 19.46% เมื่อเทียบกับไตรมาส1/65



ZIGA มีรายได้จากการขุดบิทคอยน์ 10 ล้านบาท

มาต่อกันที่ ZIGA ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่ราคาวิ่งแรงมากที่สุดตัวหนึ่ง หลังจากที่ได้ประกาศเข้าทำธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ซึ่ง ZIGA รายงานงบไตรมาส 2/65 ว่ามีรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัลงวดไตรมาส 2/65 ซึ่งเป็นรายได้ที่เกิดจากการขุดสกุลเงินดิจิทัล ที่ได้จากการขุดเหรียญบิทคอยน์เป็นจำนวน 10.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากเริ่มประกอบกิจการขุดสกุลเงินดิจิทัล ในเดือนธ.ค.64 


อีกทั้งมีต้นทุนสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 24.9 ล้านบาท และจากผลกระทบของราคาตลาดบิทคอยน์ที่ปรับลดลงในปัจจุบัน ทำให้ต้องบันทึกด้อยค่ามูลค่าเหรียญบิทคอยน์เป็นจำนวน 10.5 ล้านบาท เนื่องจากนโยบายธนาคารกลางทั่วโลก มีความเข้มงวดส่งผลให้ทั้งภาคเศรษฐกิจและ สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับผลกระทบเรื่องสภาพคล่องทั่วโลก หากสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไปในทิศทางดีขึ้นบริษัทฯยังคงเชื่อว่าราคาเหรียญบิทคอยน์ จะปรับตัวดีขึ้น



UPA ถือบิทคอยน์มากที่สุด 137 เหรียญบิทคอยน์

ขณะที่ UPA รายงานว่าในไตรมาสที่2/65 ยังไม่มีรายได้ และต้นทุนจากธุรกิจเหมืองบิทคอยน์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทต่างๆ และดำเนินการจัดทำ Share purchase agreement (SPA) จึงยังไม่มีการรับรู้รายได้และบันทึกบัญชีเข้าไปในงบการเงินของกลุ่มบริษัท ซึ่งคาดว่าจะลงนาม SPA ได้ภายในไตรมาสที่ 3/65 ทั้งนี้บริษัทบันทึกบัญชีในงบการเงินในไตรมาสที่ 2/65 เป็นเงินจ่ายล่วงหน้าเพื่อการลงทุนไว้จำนวน 716 ล้านบาท 


สำหรับโครงการเริ่มขุดเหรียญบิทคอยน์เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 โดยสิ้นไตรมาสที่ 2 ขุดเหรียญได้จำนวน 137.74 เหรียญบิทคอยน์ โดยติดตั้งเครื่องขุดจำนวน 3,788 เครื่อง ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 จากจำนวนเป้าหมาย 6,000 เครื่อง



ECF มีกำไรจากการวัดมูลค่าเหรียญคริปโท

โดย ECF รายงานว่าบริษัทอีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด (ECFH) ซึ่งเป็นบริษัทที่ ECF ถือหุ้นในสัดส่วน 94.44% พบว่า ECFH มีความสามารถในการขุดสกุลเงินดิจิทัลในช่วงที่ผ่านมาได้สองสกุลเงิน ประกอบด้วย บิทคอยน์ และอีเธอเรียม ซึ่ง ECFH มีกำไรจากการวัดมูลค่าสินค้าคงเหลือ สำหรับบิทคอยน์ และอีเธอเรียม เท่ากับ 0.10 ล้านบาท และ 3.27 ล้านบาท ตามลำดับ



AJA ครอบครองบิทคอยน์ 9.29 เหรียญ

ด้าน AJA ชี้แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 ต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า มีรายได้เหมืองขุดบิตคอยน์ จำนวน 9.29804041 เหรียญบิตคอยน์ เป็นเงิน 11.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากบริษัทเริ่มธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ต้นปี 2565



COMAN

และปิดท้ายกันที่ COMAN รายงานว่าทางบริษัท โคแมน คริปโต จำกัด (โคแมน คริปโต) มีรายได้สำหรับงวด 6 เดือน ของปี 2565 จำนวน 15.12 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขุดเหรียญดิจิทัล ขณะเดียวกันมีต้นทุนการขายและให้บริการสำหรับงวด 6 เดือน ของปี 65 จำนวน 25.95 ล้านบาท โดยต้นทุนประกอบไปด้วยต้นทุนค่าเสื่อมราคาเครื่องขุดเหรียญดิจิทัลและค่าดูแลเครื่องขุดเหรียญดิจิทัล

 

 

 


Analog