TRUE ลั่นดัน 5G ครอบคลุม 98% ภายในปี 69-ยันไม่ขึ้นค่าบริการ พร้อมตั้งกองทุนหนุนสตาร์ตอัป
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า ยืนยันบริษัทยังเดินหน้าขยายการลงทุนด้านโครงข่ายโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทค เพื่อไม่ให้กระทบต่อคุณภาพของผู้ใช้บริการและเพิ่มประสิทธิภาพบริการให้แก่ลูกค้า

.
โดยปัจจุบันทรูมูฟ เอชมีจำนวนฐานลูกค้ากว่า 33.8 ล้านเลขหมาย และดีแทคจำนวน 21.2 ล้านเลขหมาย พร้อมผู้ใช้งานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตทรูออนไลน์ 5 ล้านราย และผู้ใช้งานโทรทัศน์ทรูวิชั่นส์ 3.2 ล้านราย
.
ทั้งนี้ เบื้องต้นลูกค้าสามารถใช้สัญญาณคุณภาพดีขึ้นทันทีจากสัญลักษณ์เครือข่าย dtac-True และ True-dtac บนหน้าจอมือถือ ซึ่งเป็นก้าวแรกในการพัฒนาคุณภาพสัญญาณโมบายล์อินเทอร์เน็ตด้วยการโรมมิ่งสัญญาณข้ามโครงข่าย เพื่อใช้งาน 5G และ 4G บนคลื่น 2600 MHz และ 700 MHz อย่างไรก็ตามลูกค้าดีแทคสามารถใช้งาน 5G บนคลื่น 2600MHz และลูกค้าทรูสามารถใช้งาน 4G และ 5G คลื่น 700 MHz ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว โดยคาดว่าจะขยายครบทั้ง 77 จังหวัดประมาณกลางเดือนมี.ค.นี้
.
ขณะที่บริษัทตั้งเป้าจะขยายโครงข่าย 5G ให้ครอบคลุม 98% ของประชากรของประเทศไทยภายในปี 69 พร้อมพัฒนาและขยายเครือข่ายทั่วประเทศ
.
สำหรับค่าใช้จ่ายในการให้บริการหลังจากการควบรวม บริษัทจะยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่จะมีการเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ พร้อมกับส่งมอบสินค้าและบริการที่ดียิ่งกว่าเดิมสำหรับผู้บริโภค และจะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดและการแข่งขันที่สูงเพื่อลูกค้าเราจะได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครอบคลุมถึงธุรกิจบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก และบริการดิจิทัล พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์เพื่อลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
.
ส่วนบริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นมาจะได้ประโยชน์จากการผนึกกำลังร่วมกัน (Synergy) ทั้งด้านการลงทุนและรายได้ ซึ่งจะขับเคลื่อนร่วมกัน อาทิ โครงข่ายโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เครือข่ายไอที การจัดซื้อ การขาย การตลาด ช่องทางการค้าปลีก และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยจะนำสู่สมดุลความเสมอภาคและความเท่าเทียมในการแข่งขัน และจะนำมาสู่ประโยชน์สูงสุดของลูกค้า
.
นอกจากนี้บริษัทให้ความสำคัญกับดิจิทัลสตาร์ทอัพซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยบริษัทใหม่จะร่วมกับพันธมิตรระดมทุนจำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.3 พันล้านบาท จัดตั้งกองทุน Venture Capital (VC) รวมทั้งจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมที่สนับสนุนผู้ประกอบการดิจิทัลเพื่อวางรากฐานสำหรับผลักดันสู่อนาคตของสตาร์ตอัปไทยในระดับยูนิคอร์น ซึ่งพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและความเชี่ยวชาญที่พัฒนาจากเทเลนอร์และเครือเจริญโภคภัณฑ์
.
ทั้งนี้แบรนด์ ‘ทรู’ และ ‘ดีแทค’ จะทำการตลาดต่อไปภายใต้แผนของตัวเอง ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของกฎที่กสทช. กำหนดไว้ว่าทั้ง 2 แบรนด์จะยังคงให้บริการแยกจากกันเป็นระยะเวลา 3 ปี
***********************************