"ลงทุนหุ้นอเมริกา (ตอนที่ 4) : เล่าหุ้น Starbucks กับสาเหตุที่ราคาหุ้นร่วง" เรื่องเล่าจากคอลัมน์ "StreetSmart เปิดโลกตลาดหุ้น" บนแอป 2read
.
ตื่นนอนตอนเช้าพร้อมกับการเปิดสมาร์ทโฟน มีข้อความเด้งเตือนว่า
..."หุ้น SBUX ได้ทำจุดต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ..."
สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกชอบเป็นอย่างมากคือ การได้ค้นคว้าข้อมูลในหุ้นที่คนกำลังเทขาย แล้วมองดูว่ามันมีโอกาสซ่อนอยู่หรือไม่เมื่อ SBUX ทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปี มันก็ควรค่าแก่การเข้าไปสอดส่องดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นตัวนั้น
Starbucks มีต้นกำเนิดที่เมืองซีแอทเทิล สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1971 หรือกว่า 50 ปีมาแล้ว การก่อตั้งของเจ้าของถูกจำกัดอยู่แค่ 6 สาขา ทำให้ร้านกาแฟแห่งนี้ไม่เติบโต พอมีการขายกิจการให้กับ ฮาเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) ร้านกาแฟแห่งนี้ก็ขยายสาขาทั่วอเมริกาอย่างรวดเร็ว รายได้เพิ่มจาก 1.4 ล้านเหรียญ มาเป็น 83 ล้านเหรียญ และปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วโลกราวๆ 32,660 สาขา สร้างรายได้ไปกว่า 24.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
รายได้ส่วนใหญ่ของ Starbucks มาจากในอเมริกามากถึง 70% และนอกประเทศราวๆ 30% ถ้าแบ่งสัดส่วนรายได้ของธุรกิจ จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ1. รายได้จากการขายกาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 57%2. รายได้จากการขายอาหาร เบเกอรี่ สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 24%3. ค่าแฟรนไชส์ (Franchise Fees & Royalties) สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 10%4. ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในเครือ Starbucks เช่น แก้ว กระบอกน้ำ เสื้อ กระเป๋า สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 9%
.
Starbucks มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึงระดับ 60-70% และอัตรากำไรสุทธิระดับ 13-19% ถือว่าอยู่ในอัตราที่สูงมาก
ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นเคยทำจุดสูงสุดที่ 100 เหรียญ ก่อนจะหักหัวลงในช่วงโควิด-19 ระบาดในเดือนมีนาคม ปี 2020 ราคาหุ้นอยู่ที่ 58 เหรียญ ในรายงานของ Bloomberg วิเคราะห์ว่าสาเหตุที่หุ้น Starbucks ร่วงอย่างรุนแรงนั้นมาจากสาเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ...
อ่านบทความนี้ต่อ พร้อมภาพประกอบบนแอป 2read ได้ที่ https://bit.ly/345xgBc