STA - STGT กอดคอโชว์งบปี 64 นิวไฮ STA กำไร 1.58 หมื่นลบ. โต 66.3% ส่วน STGT กำไร 2.37 หมื่นลบ. ปันผลเจ้าละ 0.65 บ./หุ้น ขึ้น XD 19 เม.ย.พร้อมกัน กางแผนปี 65-67 รุกขยายกำลังผลิตยาง - ถุงมือยางต่อเนื่อง
STA กำไรโต 66.3% - ปันผล 0.65 บ.
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการปี 64 มีกำไร 15,846.70 ล้านบาท หรือ 10.32 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 66.3% จากปี 63 ที่กำไร 9,531.21 ล้านบาท หรือ 6.21 บาท/หุ้น
โดยกำไรที่เติบโตในปี 64 มาจาก รายได้จากการขายและการให้บริการของ 2 ธุรกิจหลักเป็นสำคัญ โดยรายได้รวมปี 64 อยู่ที่ 118,275.4 ล้านบาท ขยายตัว 56.7% ซึ่ง 2 ธุรกิจหลักในปี 64 มีดังนี้
- ธุรกิจยางธรรมชาติ มีรายได้ให้แก่บริษัทฯ 70,701.1 ล้านบาท โต 58.6% จากการฟื้นตัวที่โดดเด่นกว่าสภาวะตลาดโดยรวม ทั้งผลิตภัณฑ์ยางแท่ง ยางแผ่น และน้ำยางข้น รวมถึงราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้น 26.0%
- ธุรกิจถุงมือยาง มีรายได้ 47,497.2 ล้านบาท เติบโต 54.5% ตามสภาวะตลาดที่ขยายตัวจากความต้องการในการบริโภคถุงมือยางที่แข็งแกร่งจากทั่วทุกมุมโลก แม้ว่าปริมาณการขายอ่อนตัว 2.6% อันเนื่องมาจากการหยุดโรงงานชั่วคราวจากปัญหาคนงานติดเชื้อ COVID-19 ในช่วงไตรมาส 2/64และปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และความแออัดของเรือขนส่งสินค้า
คณะกรรมการมีมติ จ่ายปันผลเป็นเงินสด งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 64 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.64 จำนวน 0.65 บาท/หุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 19 เม.ย.65 วันที่จ่ายปันผล 6 พ.ค.65
เพิ่มกำลังผลิตยางต่อเนื่องถึงปี 67 - กัญชงพร้อมส่งตามออร์เดอร์
ด้านความคืบหน้าธุรกิจของ STA ธุรกิจต้นน้ำ – พื้นที่ประมาณ 45,000 ไร่ สำหรับทำธุรกิจสวนยางและ พืชเศรษฐกิจอื่นๆ สำหรับธุรกิจกัญชง บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตในการปลูกกัญชงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อกลางเดือนต.ค. 64 เพื่อที่จะขายเมล็ด ใบและรากกัญชงทั้งหมดที่ได้จากการปลูกให้แก่ลูกค้าที่บริษัทฯ ได้ตกลงทำสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจกันไว้
ด้านธุรกิจกลางน้ำ บริษัทฯ มีกำลังการผลิตทางวิศวกรรม 2.81 ล้านตันต่อปี จากโรงงานผลิตยางธรรมชาติ 34 แห่ง บริษัทฯ ได้มีแผนการขยายกำลังการผลิตยางแท่ง (TSR) รวมทั้งสิ้น 14 โครงการ ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 65-67 และขยายกาลังการผลิตน้ำยางข้น (LTX) โดยตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่จ.บึงกาฬ และนราธิวาส รวมถึงติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเติมที่โรงงานจ.สุราษฎร์ธานี ใช้งบลงทุนประมาณ 950 ล้านบาท จะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1.34 ล้านตัน ส่งผลให้กำลังการผลิตทางวิศวกรรมจะอยู่ที่ 3.66 ล้านตันต่อปี ในปี 65 และก้าวสู่ 4.16 ล้านตัน ในปี 67
ขณะที่ธุรกิจปลายน้ำ ตั้งเป้ากาลังการผลิตถุงมือยางที่ 50,000 ล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 65 และ 80,000 ล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 67
STGT กำไรนิวไฮ 2.37 หมื่นลบ. - ปันผลเท่ากัน 0.65 บ.
ด้านบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่ประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการปี 64 มีกำไร 23,704.16 ล้านบาท หรือ 8.29 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 64.4% จากปี 63 ที่กำไร 14,400.86 ล้านบาท หรือ 5.94 บาท/หุ้น
ในปี 64 บริษัทมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 49.9% ด้วยความต้องการในการบริโภคถุงมือยางที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคทั่วโลกจากการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ส่งผลให้ราคาขายของ ถุงมือยางในตลาดโลกปรับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และหนุนให้บริษัทฯ สามารถสร้างสถิติใหม่ของรายได้ที่ 47,550.8 ล้านบาท เติบโต 55.6%
คณะกรรมการมีมติ จ่ายปันผลเป็นเงินสด งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 64 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.64 จำนวน 0.65 บาท/หุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 19 เม.ย.65 วันที่จ่ายปันผล 5 พ.ค.65
ตั้งเป้าปี 67 ผลิตถุงมือยาง 80,000 ล้านชิ้น
สำหรับกลยุทธ์ ปี 65 บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขยายกาลังการผลิตติดตั้ง โดยภายในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีกำลังการผลิตที่ 48,000 ล้านชิ้น และภายในปี 67 เป็น 80,000 ล้านชิ้น รวมถึง การขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าไว้ที่มากกว่า 190 ประเทศ ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่ 170 ประเทศทั่วโลก และการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต จากปัจจุบันที่ใช้พนักงาน 2.18 คนในการผลิตถุงมือ 1,000,000 ชิ้น บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าในปี 67 และปี 69 จะใช้พนักงานลดลงเป็น 1.65 และ 1.0 คนในการผลิตถุงมือ 1,000,000 ชิ้น