ห้องเม่าปีกเหล็ก

หาก COVID-19 ระบาดคลื่นที่ 2 เศรษฐกิจจะดิ่งแค่ไหน?

โดย dave
เผยแพร่ :
62 views

The Conversation EP.18 หาก COVID-19 ระบาดคลื่นที่ 2 เศรษฐกิจจะดิ่งแค่ไหน?

หลังจากที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ( GDP) ไตรมาส 1/2563 ออกมาติดลบ 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขยายตัว 1.5% โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ในส่วนของธุรกิจโรงแรม ที่พัก และภัตตาหาร ที่ติดลบ 24.1% จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เหลือเพียง 6.69 ล้านคน  หรือติดลบ 38% ขณะที่รายรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเหลือเพียง 3.3 แสนล้านบาท หรือติดลบ 40.4% จากผลกระทบ COVID-19 ต่อเศรษฐกิจที่สะท้อนออกมาผ่านตัวเลขดังกล่าว สศช.คาดการณ์ว่า GDP ปีนี้ อาจจะติดลบ 5% - ติดลบ 6% หรือค่ากลางที่ติดลบ 5.5%

 

ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “ดร.อมรเทพ จาวะลา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เคยให้มุมมองใน The Conversation ตอนที่แล้วว่าทางซีไอเอ็มบี ไทย ได้ประเมิน GDP ไตรมาส 2/2563 ต่ำที่สุด หรืออาจจะติดลบ 14% และในครึ่งปีหลังประเมินว่าเศรษฐกิจจะติดลบ 10% มีเพียง “การใช้จ่ายภาครัฐ” ที่จะคอยพยุงเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่กำลังซื้อผู้บริโภค และธุรกิจเอสเอ็มอีจะฟื้นกลับมาเป็นปกติ

 

ดังนั้นใน The Conversation EP.17 นี้ เราจะมาพูดคุยกับดร.อมรเทพในประเด็นต่อเนื่องว่า ถ้าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 กลับมาระบาดรอบ 2 จะเป็นอย่างไรบ้าง และเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะติดลบมากกว่าที่ซีไอเอ็มบี ไทย เคยประเมินไว้หรือไม่

 

 

Q : ทางซีไอเอ็มบีได้ประเมินกรณี Worst case ของเศรษฐกิจไทยไว้หรือไม่

 

A: ตัวเลขที่ทางสำนักวิจัยจึงได้คาดว่า GDP ไตรมาสที่สองนี้มีโอกาสหดตัวได้ถึง 14% เป็นการคาดการณ์ในช่วงที่กำลังทยอยเปิดเมือง หรือปลดล็อคดาวน์มากกว่า ซึ่งประเมินว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้น ในอัตราที่ไม่ได้เร็วมาก นักท่องเที่ยวอาจจะทยอยกลับมาในช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปีหน้า ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลมากคือ การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างน้อย 4 แสนล้านบาท จะเป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้

 

“ถ้ากรณี Worst case อย่างที่บอกว่าจะกลับมาล็อคดาวน์อีกครั้ง เป็น second wave เช่นสมมติว่ามีผู้ติดเชื้อเกิน 100 คนขึ้นมา เดี๋ยวจะต้องมาปิดเมืองกันอีกรอบ ผมมองว่าหากเกิดสถานการณ์แบบนี้ จะไม่ใช่กรณีเลวร้ายที่สุด น่าจะเป็นกรณีที่เราเข้าใจได้ เพราะไม่ได้หมายความว่าเปิดเมืองวันนี้แล้วต้องเปิดตลอด วันหนึ่งถ้ามีจำนวนผู้ติดเชื้อมากๆ หรือมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยง คนไม่เชื่อฟังแนวปฏิบัติของภาครัฐ นั่นถึงจะเป็นโจทย์ใหม่ที่เราต้องยอมรับว่าต้องมีล็อคดาวน์ขึ้นอีกรอบหนึ่ง แต่อาจจะไม่ใช่ทั่วประเทศ” ดร.อมรเทพกล่าว

Q : หากมีกรณี Worst case เศรษฐกิจจะดิ่งลึกแค่ไหน และตัวเลขคาดการณ์ติดลบ 14% ถือเป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดแล้วหรือไม่

 

A:  ดร.อมรเทพกล่าวว่า แน่นอนว่าหากมี second wave ย่อมส่งผลกระทบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแน่นอน แต่ไม่ได้คิดว่าการล็อคดาวน์รอบที่ 2 จะมีผลลบกับทางเศรษฐกิจเท่ากับรอบแรก เพราะอะไรที่มันเกิดซ้ำ คนปรับตัวได้ คนประเมินสถานการณ์ได้ เพราะฉะนั้นรอบที่ 2 ต่อให้มีการปิดร้านอาหาร ปิดห้างอีกรอบ เชื่อว่าคนน่าจะปรับตัวกันได้ ขณะเดียวกันเชื่อว่าจะมีนโยบายการเงินการคลังเข้ามาช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ

 

“สิ่งที่จะต้องจับตา หากมีการระบาดรอบใหม่ นั่นคือ จะทำอย่างไรหากต้องใช้เวลาปิดเมืองนานกว่าเดิม ไม่ได้เป็นเหมือนปัจจุบันที่สามารถเปิด-ปิดกิจการได้เป็นระยะๆ นั่นแหละถึงจุดที่ต้องมาพิจารณาว่า จะกระทบกับเศรษฐกิจแค่ไหน เพราะฉะนั้นการประเมินตัวเลขติดลบ 14% เป็นตัวเลขที่ประเมินไว้ก่อนหน้า รวมถึงตัวครึ่งปีหลังที่คาดการณ์ว่าจะติดลบ 10% จึงอาจจะต้องทบทวนคาดการณ์ใหม่” ดร.อมรเทพกล่าว

 

ดร.อมรเทพกล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจไทยอาจลงลึก ลากยาว ฟื้นต่ำ คล้ายๆ กับตัวยู U แต่ด้วยกระแสต่อต้านโลกาภิวัตน์ de-globalization ที่แต่ละประเทศหวังดึงเงินให้หมุนในประเทศ ไม่อยากให้ออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวที่เมื่อปัญหา COVID-19 คลี่คลายลง การส่งเสริมการสร้างงานและฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นเชื่อว่าเราจะสามารถฝ่าฟันให้พ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้ในไม่ช้า

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


dave