รู้จัก ‘ซิโน-ไทย’ รับเหมาสร้างรัฐสภา

รู้จัก ‘ซิโน-ไทย’ รับเหมาสร้างรัฐสภา ‘อนุทิน’ เคยนั่ง กก.

ซิโน-ไทย ฟ้องร้อง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเลขาธิการรัฐสภา เรียกค่าเสียหาย 1,590 ล้านบาท ต่อมาศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567 “ยกฟ้อง

อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ สร้างเสร็จซ่อมต่อ เนื่องจากกระบวนการก่อสร้างมีปัญหามาโดยตลอด ย้อนไปในปี 2551 มีการจัดการประกวดแบบ และได้ผู้ชนะออกแบบคือ “กลุ่มสงบ๑๐๕๑”

ก่อนที่จะมีการทำสัญญาก่อสร้างเมื่อเดือน เม.ย. 2556 โดยมี บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง

เริ่มดำเนินโครงการในวันที่ 8 มิ.ย.2556 ในยุคที่ “ชัย ชิดชอบ” เป็นประธานรัฐสภา “ชัย” เป็นบิดาของ “เนวิน ชิดชอบ” ผู้นำทางความคิดของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมี “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

ระหว่างการก่อสร้างมีการขยายสัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 25 พ.ย.2558 -15 ธ.ค.2559 รวม 387 วัน ครั้งที่ 2 วันที่ 16 ธ.ค.2559 - 9 ก.พ.2561 รวม 421 วัน ครั้งที่ 3 วันที่ 10 ก.พ.2561 - 15 ธ.ค.2562 รวม 674 วัน ครั้งที่ 4 วันที่ 16 ธ.ค.2562 - 31 ธ.ค.2563 รวม 382 วัน

อย่างไรก็ตาม มีการยื่นขอขยายสัญญาครั้งที่ 5 แต่คณะกรรมการตรวจการจ้างฯ มีมติเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2563 “ไม่ขยายสัญญา” ซิโน-ไทย พร้อมเรียกค่าปรับวันละ 12 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ

ทว่า บริษัทซิโน-ไทย ดำเนินการฟ้องร้อง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเลขาธิการรัฐสภา เรียกค่าเสียหาย 1,590 ล้านบาท ต่อมาศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567 “ยกฟ้อง”

สำหรับ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STECON เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหลักของโครงการรัฐสภา ก่อตั้งโดย “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” อดีตรัฐมนตรี หลายสมัย โดยมี “อนุทิน” บุตรชาย เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในช่วงปี 2535 -2547 ก่อนลาออกจากบริษัท

ทั้งนี้ บริษัท ซิโน-ไทย จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อ 8 ก.ย. 2536 (ปัจจุบันออกจาก ตลท.แล้วเมื่อปี 2567) ทุนปัจจุบัน 1,525,106,540 บาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 32/59-32/60 อาคารซิโน-ไทยทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท 21 (ซอยอโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การก่อสร้าง

รายชื่อกรรมการล่าสุด ประกอบด้วย นายภาคภูมิ ศรีชำนิ นางใจแก้ว เตชะพิชญะ นายจารุณัฐ จิรรัตน์สถิต นายประสิทธิ์ ประวัง นายสัมพันธ์ ชนะบูรณาศักดิ์ นายไชยาพร อิ่มเจริญกุล

รายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อ 26 เม.ย. 2567 บริษัท ซี.ที. เวนเจอร์ จำกัด (บริษัทโฮลดิ้งของลูกนายอนุทิน มีนายเศรณี และนางสาว นัยน์ภัค ถือหุ้น 2 คน) ถือ 17.1449%

UBS AG, SINGAPORE BRANCH (สัญชาติสวิซ) ถือ 10.4831% บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) ถือ 3.8602%

บริษัท พี.พี. โกลบอล เวลท์ จำกัด 3.6954% นาง อนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ (น้องสาวนายอนุทิน ชาญวีรกูล) ถือ 3.3785% บริษัท โกลเด้น เอร่า แคปิตอล จำกัด ถือ 3.0396% บริษัท อิควิตี้ พลัส จำกัด ถือ 3.0098%

SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED (สัญชาติสหราชอาณาจักร) ถือ 2.3100% บริษัท แอสเซท เลกาซี่ จำกัด ถือ 1.9430% นาย มาศถวิน ชาญวีรกูล ถือ 1.6692% นาง พัชรา จิรรัตน์สถิต ถือ 1.1686%

THE BANK OF NEW YORK MELLON (สัญชาติอเมริกัน) ถือ 1.0582 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือ 0.8793% สำนักงานประกันสังคม โดย บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด ถือ 0.6717% กองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ ถือ 0.4833%

บริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด ถือ 0.4679% กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เค มาสเตอร์ พูล ฟันด์ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ถือ 0.4386% STATE STREET EUROPE LIMITED (สัญชาติสหราชอาณาจักร) ถือ 0.4162% นาย ทิวา จิรพัฒนกุล ถือ 0.3836%

กองทุนเปิด เค สตาร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ถือ 0.3564% กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย บลจ.บัวหลวง จำกัด ถือ 0.3418% บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือ 0.3278% นาย เกรียงไกร ประสงค์สุกาญจน์ ถือ 0.3207%

นายสรัฐ ตันตราภรณ์ ถือ 0.3011% EAST FOURTEEN LIMITED-DFA EMERG MARKET CORE EQ PORT (สัญชาติสหราชอาณาจักร) ถือ 0.3003% ที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย ถือรวมกัน 41.5508%

สำหรับงบการเงินของ บริษัท ซิโน-ไทย ตั้งแต่ปีที่ได้รับงานสร้างอาคารัฐสภาแห่งใหม่ ยังมีกำไรอย่างต่อเนื่อง

โดยปี 2557 มีสินทรัพย์ 23,908,793,773 บาท หนี้สิน 16,126,739,502 บาท รายได้รวม 21,810,790,790 บาท รายจ่ายรวม 19,938,484,751 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 17,353,322 บาท กำไรสุทธิ 1,484,023,000 บาท

ปี 2558 มี สินทรัพย์ 21,231,675,011 บาท หนี้สิน 12,768,313,937 บาท รายได้รวม 18,691,287,228 บาท รายจ่ายรวม 17,108,158,768 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 11,033,369 บาท กำไรสุทธิ 1,266,815,660 บาท

ปี 2559 มี สินทรัพย์ 30,585,041,167 บาท หนี้สิน 22,549,452,395 บาท รายได้รวม 18,457,190,305 บาท รายจ่ายรวม 16,869,194,637 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 12,078,505 บาท กำไรสุทธิ 1,266,549,248 บาท

ปี 2560 มี สินทรัพย์ 30,585,041,167 บาท หนี้สิน 22,549,452,395 บาท รายได้รวม 20,572,351,510 บาท รายจ่ายรวม 21,624,326,681 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 21,625,809 บาท ขาดทุนสุทธิ 847,102,836 บาท

ปี 2561 มี สินทรัพย์ 42,884,707,967 บาท หนี้สิน 33,281,958,237 บาท รายได้รวม 27,653,337,131 บาท รายจ่ายรวม 25,838,593,308 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 22,425,369 บาท กำไรสุทธิ 1,439,859,090 บาท

ปี 2562 มี สินทรัพย์รวม 45,670,847,028 บาท หนี้สินรวม 32,990,633,398 บาท รายได้รวม 33,201,315,094 บาท รายจ่ายรวม 31,890,373,856 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 21,613,818 บาท เสียภาษีเงินได้ 253,143,958 บาท กำไรสุทธิ 1,036,183,462 บาท

ปี 2563 สินทรัพย์รวม 41,565,977,492 บาท หนี้สินรวม 28,348,495,089 บาท รายได้รวม 36,390,006,814 บาท รายจ่ายรวม 35,372,949,142 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 27,177,059 บาท เสียภาษีเงินได้ 185,573,775 บาท กำไรสุทธิ 804,306,838 บาท

ปี 2564 สินทรัพย์รวม 43,933,274,330 บาท หนี้สินรวม 28,577,870,001 บาท รายได้รวม 27,976,398,402 บาท รายจ่ายรวม 27,292,419,396 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 18,513,175 บาท เสียภาษีเงินได้ 115,403,335 บาท กำไรสุทธิ 550,062,496 บาท

ปี 2565 สินทรัพย์รวม 47,848,341,922 บาท หนี้สินรวม 30,470,439,291 บาท รายได้รวม 30,559,855,823 บาท รายจ่ายรวม 29,605,995,222 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 13,791,516 บาท เสียภาษีเงินได้ 165,618,383 บาท กำไรสุทธิ 774,450,702 บาท

ปี 2566 สินทรัพย์รวม 44,510,989,186 บาท หนี้สินรวม 28,841,161,144 บาท รายได้รวม 29,829,426,783 บาท รายจ่ายรวม 28,974,935,772 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 39,295,495 บาท เสียภาษีเงินได้ 110,390,682 บาท กำไรสุทธิ 704,804,834 บาท

ทั้งนี้ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ (STEC) ได้ขอเพิกถอนโดยสมัครใจจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้น

โดยการแลกเปลี่ยน 1 หุ้นสามัญของ STEC ต่อ 1 หุ้นสามัญของ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ระหว่างวันที่ 19 สิงหาคม 2567 - 21 ตุลาคม 2567 เสร็จสิ้นแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศให้ STECON เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2567 แทน STEC ที่จะถูกเพิกถอนในวันเดียวกัน

เนื้อหาข้อมูลที่มาจาก.. https://www.bangkokbiznews.com/politics/1179362