ได้ปันผลเป็นหุ้น ทำไงต่อดี ?

 

.

หลังจากที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศงบการเงินงวดปี 64 แล้ว ส่วนใหญ่ก็ประกาศจ่ายเงินปันผลมาด้วยใช่ป่ะ ซึ่งตลอดช่วงไตรมาส 1/65 ต่อช่วงต้นไตรมาส 2/65 เป็นจังหวะที่เริ่มเห็นการขึ้นเครื่องหมายไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) รวมทั้ง การจ่ายเงินปันผลรวมอยู่ด้วย

.

แต่ในงวดงบปี 64 ก็มีอยู่หลายบริษัทเหมือนกัน ที่จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็น"หุ้นปันผล" แทนที่จะเป็น"เงินปันผล" อย่างที่นักลงทุนอย่างเราๆส่วนใหญ่คาดหวังกันไว้ ทำให้หลายคน ก็ออกอาการเซ็งไม่น้อยเหมือนกันนะ ...

.

พอแอดเห็นหลายคน ที่มีอาการเซ็งจากการจ่ายปันผลรอบนี้ วันนี้แอด จึงอยากนำข้อมูลดีๆ จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มาแบ่งปันทุกคนที่อาจจะกำลังมีอาการเซ็งอยู่ ว่าถ้าได้"หุ้นปันผล"มาแล้ว เราควรจะทำอย่างไรกับไอ้เจ้า"หุ้นปันผล"ต่อดี ...

.

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯให้ข้อมูลว่า หลังจากที่เราได้"หุ้นปันผล"มาแล้ว อย่าเพิ่งออกอาการเซ็ง แต่ควรมานั่งทำความเข้าใจ และหาสาเหตุก่อน ว่าทำไมบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ เขาถึงจ่ายปันผลเป็น"หุ้น"มาให้เรา หลังจากนั้นก็ควรพิจารณาต่อว่า การจ่ายปันผลเป็นหุ้น จะส่งผลกระทบอะไรกับบริษัท รวมทั้งนักลงทุนอย่างเราหรือไม่ ?

.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้อีกว่า การจ่ายปันผลเป็น"หุ้น" เป็นการออกหุ้นใหม่เพื่อจ่ายเป็นปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในวันปิดสมุดทะเบียน ซึ่งสาเหตุที่บริษัทนิยมออกหุ้นปันผลมาให้นักลงทุน เป็นเพราะต้องการเก็บกำไรที่ทำได้ไปลงทุนต่อ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคตนั่นเอง

.

ทีนี้ มาถึงส่วนสำคัญว่าเราควรถือ"หุ้นปันผล"ต่อไป หรือ ควรตัดใจขายเพื่อแปลงสภาพหุ้นให้เป็นเงินสดทันที ซึ่งการที่เราจะตัดสินใจว่าจะทำแบบไหนดี มีเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้นะทุกคน ...

.

1.เราต้องเปรียบเทียบระหว่าง ราคาตลาดของหุ้นที่อาจลดลงชั่วคราวเพราะจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น หลังประกาศจ่ายเงินปันผล กับ ความสำเร็จของผลประกอบการทางธุรกิจในอนาคตที่อาจเพิ่มขึ้น จากการนำกำไรไปลงทุนต่อ ว่ามีความเป็นไปได้ที่การเติบโตนั้นจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ ?

.

หากเรามั่นใจในศักยภาพการทำธุรกิจ และ วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ก็สามารถทนถือ"หุ้นปันผล" ที่ออกใหม่ต่อไปได้ แต่ในทางกลับกัน หากมองแล้วว่า ธุรกิจที่บริษัทจะเข้าไปลงทุน มีโอกาสที่เจริญรุ่งเรืองได้ยาก ประกอบกับ บริษัทเองก็ไม่ได้มีความถนัดในธุรกิจนั้นด้วย นี่ก็อาจเป็นจังหวะที่เราควรต้องชิ่งออกมาเสียก่อนนั่นเอง

.

2.ควรรู้กระบวนการผลกระทบของการจ่ายปันผลเป็นหุ้นอย่างละเอียด โดยหลังจากที่บริษัทจ่ายปันผลเป็น"หุ้น"ออกมา ปัจจัยลบที่จะตามมา คือ กำไรต่อหุ้นของบริษัทอาจลดลง เพราะจำนวนหุ้นมีมากขึ้น, ถ้าปัจจัยอื่นคงที่ ราคาตลาดของหุ้นจะลดลงชั่วคราว หลังจ่ายปันผล

.

ส่วนปัจจัยบวกที่จะตามมา คือ บริษัทจะสามารถประหยัดเงินไว้เป็นจำนวนมาก และสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะถัดไปได้ ประกอบกับ เป็นการเพิ่มจำนวนหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้มีสภาพคล่องมากขึ้น

.

นี่แหละ ที่เราควรนำมาพิจารณา และมาชั่งน้ำหนักให้ดีว่า สรุปแล้วข้อดี หรือ ข้อเสีย ที่จะตามมาหลังบริษัทจ่ายปันผลเป็น"หุ้น" ให้กับเราอะไรจะมากกว่า และ ในฐานะผู้ถือหุ้นอย่างเรา คุ้มค่ามากแค่ไหน ที่จะถือลงทุนในหุ้นบริษัทดังกล่าวต่อไป ...

.

จากที่แอดเล่ามายาวๆ ก็พอจะสรุปได้สั้นๆว่า เหตุผลหลักที่จะทำให้เราตัดสินใจถือหุ้นบริษัทนั้นๆต่อไปหรือไม่ คือ ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั่นเอง ถ้ามั่นใจว่ากำไรในระยะต่อไปโตต่อได้แน่ ก็ไม่ต้องฟังเสียงนกเสียงกาอะไรทั้งนั้น จัดไปให้สุดทาง แต่ถ้าพบว่าไม่ ก็ควรจะทางใครทางมันนะจ๊ะ

.

สำหรับเรื่อง"หุ้นปันผล" ที่แอดนำมาฝากทุกคนวันนี้ก็มีประมาณนี้เนอะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยน๊ะจ๊ะ วันนี้ไปแล้ว เจิกันใหม่ บ๊าย บาย ....