KTC รายงานงบ 1Q64 มีกำไรสุทธิ 1.6 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อย -0.4%YoY แต่ขยายตัว 23.6%QoQ จากรายได้หนี้สูญได้รับคืนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะกว่า 834 ล้านบาท ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า สะท้อนการทำงานที่มีประสิทธิภาพของฝ่ายติดตามหนี้ ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยลดลงทั้งธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยมี spread เท่ากับ 13.9% ลดลงจากการปรับเพดานดอกเบี้ยของ ธปท. ตั้งแต่ 1 ส.ค. 63 อย่างไรก็ดีค่าใช้จ่ายก็ลดลงเช่นกันทั้นส่วนของ CoF (-7.6%YoY), OPEX (-11%YoY) และ Credit cost (-8.0%YoY)
ทั้งนี้สิ้นงวด 1Q64 มีพอร์ทลูกหนี้คงเหลือของบัตรเครดิต 5.7 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 10.3%YoY และสินเชื่อส่วนบุคคล 2.9 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.2%YoY ทำให้พอร์ทสินเชื่อโดยรวมขยายตัว 5.8%YoY ด้านคุณภาพสินเชื่อ โดย NPLs ratio ของพอร์ทโดยรวมเท่ากับ 1.9% ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.8% ในช่วงปลายปี 2563 เพื่อรองรับความเสี่ยงของคุณภาพลูกหนี้ที่อ่อนแอลง ด้านลูกหนี้ที่อยู่ภายใต้มาตรการช่วยเหลือมียอดหนี้คงเหลือเท่ากับ 1.69 พันล้านบาท (16,066 บัญชี)
แนวโน้ม 2Q64 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากยอดการใช้บัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อของออนไลน์ ตามการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ รวมถึงสินเชื่อที่มีหลักประกันจาก KTC พี่เบิ้ม และล่าสุดได้เข้าซื้อหุ้น KTBL จาก KTB ที่เป็นกลุ่ม leasing ทำให้พอร์ทของ KTC ขยายสินเชื่อรายย่อยได้มากขึ้น
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทดสอบผ่านSMA5วันและ10วันขึ้นมาด้วยแท่งเทียนสีขาวยาว ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นสัญญาณซื้อแท่งเทียน แนวรับระหว่างวันเน้นยืน 77.50-77.25 เป็นจุดพิจารณารอบขาขึ้น แนวต้านจิตวิทยา 80.00 ผ่านยืนมั่นคงแนวโน้มกลับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านหลักจุดสูงแท่งเทียนก่อนหน้า 82.50