ห้องเม่าปีกเหล็ก

ทำไม ตะวันออกกลาง ถึงไม่เป็น จุดศูนย์กลางการผลิตของโลก

โดย PhotoStory
เผยแพร่ :
172 views

ทำไม ตะวันออกกลาง ถึงไม่เป็น จุดศูนย์กลางการผลิตของโลก - BillionMoney

 

ถ้าพูดถึงศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของโลก หลายคนน่าจะนึกถึงจีน

แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่มีทั้งน้ำมัน และปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของโลก ทั้งสนามบิน และท่าเรือ กลับไม่ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางการผลิตของโลก

และถ้าหากคุณสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ?

BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ

ถ้าเราเป็นเจ้าของโรงงานผลิตสินค้า สิ่งที่เราจะต้องพิจารณาในการเลือกสถานที่ตั้งโรงงาน คือเรื่องค่าแรงในแต่ละประเทศ

หากเราลองมาดูกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง 4 ประเทศ จะพบว่า

- ซาอุดีอาระเบีย มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 9,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

- โอมาน มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 10,143 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

- บาห์เรน มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 12,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 29,030 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

ขณะที่จีนมีค่าแรงขั้นต่ำต่อปี เพียง 4,404 ดอลลาร์สหรัฐ

ดังนั้น เมื่อคำนวณค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น เพื่อแลกกับต้นทุนค่าขนส่งและค่าพลังงานที่ถูกลง ก็ยังอาจจะไม่คุ้ม

เพราะเราต้องไม่ลืมว่าค่าแรงเป็นค่าใช้จ่ายหลักของธุรกิจการผลิต ขณะที่ค่าขนส่งและพลังงาน เป็นค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า

ขณะที่ปริมาณแรงงานในกลุ่มภูมิภาคตะวันออกกลางก็มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศจีน

โดยภูมิภาคตะวันออกกลาง มีประชากรรวมประมาณ 476 ล้านคนเท่านั้น เทียบไม่ได้เลยกับประชากรจีน ที่มีมากกว่า 1,400 ล้านคน

นอกจากจะต้องพิจารณาเรื่องค่าแรง และปริมาณแรงงานแล้ว ผู้ผลิตสินค้าหลายคนยังให้ความสำคัญกับตลาดของผู้บริโภคอีกด้วย เพราะถ้าเราตั้งโรงงานไว้ใกล้กับตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ รายได้ที่ได้กลับมา ก็ยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นไปอีก แถมยังไม่ต้องเสียต้นทุนค่าขนส่งสินค้าแพงมากอีกด้วย

เรื่องความมั่นคงทางการเมืองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนสร้างฐานการผลิต โดยในปี 2021 World Bank ได้จัดให้เขตตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เป็นกลุ่มประเทศที่มีความมั่นคงทางการเมืองน้อยที่สุดในโลก

นอกจากนี้ ภูมิภาคตะวันออกกลางยังมีปัญหาการก่อการร้าย อีกด้วย

ดังนั้น นักลงทุนก็อาจมองว่า ความไม่มั่นคงทางการเมืองนี้ จะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้

อีกทั้งความเสี่ยงเหล่านี้ก็จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินของนักธุรกิจ ที่จะมาสร้างโรงงานในภูมิภาคนี้แพงมากขึ้น จนได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าการไปสร้างฐานการผลิตในประเทศอื่น ที่มีความสงบ และมีการเมืองที่มั่นคงมากกว่า

และด้วยความที่ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง พึ่งพารายได้จากน้ำมันในสัดส่วนที่สูง ทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการผลิตมีน้อยมาก

เมื่อโครงสร้างพื้นฐานไม่แข็งแรง โรงงานผลิตชิ้นส่วน ที่จำเป็นต่อการผลิตสินค้าขั้นสูง จึงมีน้อย

ดังนั้น ถ้าเราเลือกที่จะตั้งโรงงานผลิตแถวตะวันออกกลาง เราก็อาจจะต้องนำเข้าชิ้นส่วนที่จำเป็นจากประเทศอื่นอีกที

ซึ่งจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจที่สูงมากขึ้น

อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็น่าจะเข้าใจแล้วว่า กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง มีปัจจัยลบอะไรบ้าง ถึงทำให้ไม่สามารถขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลกได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กำลังเผชิญกับความท้าทาย จากเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ที่ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในอนาคตอาจลดลงไปอย่างมาก ดังนั้นหลายประเทศในตะวันออกกลาง จึงเริ่มมีแผนที่จะกระจายรายได้จากช่องทางอื่นมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย ตั้งเป้าที่จะพัฒนาประเทศ ให้เป็นศูนย์กลางการผลิตในระดับภูมิภาค จึงลงทุนอย่างหนักในอุตสาหกรรมผลิตพลาสติก ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากธุรกิจปิโตรเคมี

ด้านรัฐบาลบาห์เรน ก็เริ่มแก้ไขกฎหมายให้นักลงทุนต่างชาติ สามารถถือหุ้น 100% ในธุรกิจเกือบทุกอุตสาหกรรมในประเทศได้ เพื่อเป็นการดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น

นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ก็เริ่มมีการศึกษาที่ดีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกด้วย

จึงน่าติดตามว่าแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต ของกลุ่มประเทศตะวันออกกลางจะสำเร็จหรือไม่ ในช่วงเวลาที่การเดินทางของมนุษย์ จะพึ่งพาน้ำมันน้อยลงไปทุกที..

 

 


PhotoStory