ปัจจัยนอกประเทศกดดัน SET อ่อนตัว แนะ 5 หุ้นที่ผลงานไตรมาส 2 เติบโต
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,530 - 1,535 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจหดตัวหลังยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนเม.ย.อ่อนแอโดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ประกอบกับความไม่แน่นอนการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐซึ่งหากผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย.จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy เช่นเดิมโดยรอจังหวะเข้าซื้อช่วงอ่อนตัว
โดยกลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy หุ้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 ยังคงเติบโต อย่าง BBL KTB TTB KBANK SCB รวมทั้ง BDMS BEM BTS INTUCH ADVANC กลุ่ม Defensive ช่วงดัชนีผันผวน
ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ คือ ADVANC (ปิด 213 ซื้อ/เป้า 250 บาท) แนวโน้มกำไรสุทธิกลับสู่เทรนด์ขาขึ้น จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และมีการแข่งขันที่ลดลง ขณะที่ ADVANC เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Dividend yield ประมาณ 4% จึงเป็นหุ้นที่น่าสนใจในภาวะที่ตลาดผันผวนหรือพักตัว
BDMS (ปิด 29.5 ซื้อ/เป้า 37 บาท) เป็นหุ้น Defensive เหมาะสำหรับพักเงินในภาวะที่ตลาดผันผวน แนวโน้มกำไรยังเป็นขาขึ้นคาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 14%จากปีก่อน
ประเด็นสำคัญวันนี้ กลุ่มท่องเที่ยว – จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มลดลง: โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงวันที่ 8-14 พ.ค.มีจำนวนทั้งสิ้น 415,309 คน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อวันที่ 59,329 คน ลดลง 7.1%wow นับเป็นค่าเฉลี่ยต่อวันต่ำที่สุดของปีนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก low season ของธุรกิจ
เจ้าหน้าที่เฟดยังสนับสนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อคุมเงินเฟ้อ: นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตากล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป มากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย สอดคล้องกับ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดยังสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกหากเงินเฟ้อยังไม่ลดลง
กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้: วานนี้จีนรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.ปรับตัวขึ้น 5.6%yoy สูงขึ้นจากเดือน มี.ค.ที่ขยายตัว 3.9% แต่กว่า Consensus คาดไว้ที่ 10.9%yoy ขณะเดียวกันยอดค้าปลีกขยายตัว 18.4%yoy สูงขึ้นจาก 10.6%yoy ในเดือน มี.ค. แต่ต่ำกว่าที่ Consensus คาดว่าจะโต 21%yoy การฟื้นตัวช้าจะมีผลต่อการเติบโตของ GDP โลกและมีผลลบต่อทิศทางของราคาพลังงาน