ย้อนไปเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม นับเป็นครั้งแรกที่กลุ่ม Principal ยกงาน Summit Series ซึ่งจัดเป็นประจำที่ Chicago มาจัดที่กรุงเทพ โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการลงทุนมาแลกเปลี่ยนมุมมองและกลยุทธ์การจัดพอร์ตภายใต้ภาวะที่ความเสี่ยงเร่งตัวขึ้น (Heighten Risk Velocity)
สรุปเนื้อหาบางส่วนได้ดังนี้ครับ
1. ตลาดหุ้น - เราผ่านช่วง 1 ทศวรรษที่หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market - DM) ให้ผลตอบแทนชนะหุ้นประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Market - EM) เชื่อว่าในไม่ช้า ตลาดจะกลับทิศ (rotate) ให้หุ้น EM กลับมานำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้นจีน A Shares ที่เน้นเศรษฐกิจในประเทศ และมี P/E ต่ำกว่า 10x และเวียดนาม ซึ่งกำลังได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน โดยยอดสินค้าที่เวียดนามส่งออกไปสหรัฐฯ โต 27% ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้
2. REITs - (ย่อมาจาก Real Estate Investment Trusts) เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดของปีนี้ เรามองว่า ปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่ม Office, Data Centers และ Logistics แต่มองว่า REITs ไทยมี Valuation ค่อนข้างแพง แนะนำให้เพิ่มน้ำหนัก REITs ใน Singapore, Australia, Japan, etc.
3. การจัดพอร์ตเพื่อเกษียณ - หลักสำคัญคือ ควรกระจายสินทรัพย์ให้หลากหลาย คือมีทั้งตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ และทองคำ โดยกองทุนสมดุลตามอายุ (Target Date Funds) ของ บลจ. พรินซิเพิล ทำผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีได้สูงกว่าปีละ 1% เมื่อเทียบกับกองทุนผสมที่ลงทุนเฉพาะตราสารหนี้ไทยและหุ้นไทยในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
อ่านสรุปมุมมองบางส่วนจากบทความของ Bangkok Post ได้ที่นี่ครับ https://www.bangkokpost.com/business/1765269/thailand-market-among-asean-best
#PrincipalTH #AsiaSummitBangkok2019