ตลท.รับ “พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR)” เทรดวันแรก 15 มี.ค. นี้ กูรูให้เป้า 8-11.80 บ./หุ้น
*** ตลท.รับ "บมจ. พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR)" เข้าเทรด SET วันแรก 15 มี.ค.นี้
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มสินค้าบริการ หมวดบริการเฉพาะกิจ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PRTR” ในวันที่ 15 มี.ค. 66

.
PRTR ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร ได้แก่ 1.ธุรกิจ HR Outsourcing Services ให้แก่บริษัทและองค์กรชั้นนำต่างๆ โดยปัจจุบันบริษัทให้บริการจัดหาบุคลากรจำนวนกว่า 15,000 ราย เช่นพนักงานขาย พนักงานโรงงาน พนักงานติดต่อลูกค้า วิศวกร ช่างเทคนิค พนักงานสำนักงาน เป็นต้น 2.บริการสรรหาบุคลากรในทุกระดับ (Recruitment Services) ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า 3.บริการแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ภายใต้ชื่อ NEXMOVE
.
4.บริการฝึกอบรมหลักสูตรเฉพาะทางในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์มากกว่า 200 หลักสูตรผ่านแอปพลิเคชันมือถือและเว็บไซต์ของ BLACKSMITH และ 5.บริการซอฟต์แวร์ด้านการบริหารจัดการบุคลากร
.
สำหรับ PRTR มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 450 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 150 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 8 - 10 มี.ค.66 ในราคาหุ้นละ 7.20 บาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,320 ล้านบาท
.
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 16.3 เท่า โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
.
***นำเงินลงทุนในธุรกิจใหม่-พัมนานวัตกรรม
นางสาวริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีอย่างยิ่งที่หุ้น PRTR เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้ PRTR ก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการที่ครบวงจรด้านทรัพยากรบุคคล (Total HR Solutions) ครอบคลุมการให้บริการสรรหาพนักงาน การจัดจ้างพนักงาน การจัดทำเงินเดือนและบริการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน
.
โดยบริษัทได้วางกลยุทธ์เพื่อต่อยอดโอกาสการเติบโตใหม่ (New S-Curve) ด้านการพัฒนาบุคลากรและจัดหาเทคโนโลยีเพื่อรองรับการทำงานด้านทรัพยากรมนุษย์อย่างครบวงจร ตอบโจทย์การสนับสนุนการดำเนินกิจการของลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม ส่งเสริมการจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพไปพร้อมกับพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
.
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 1,042 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เตรียมนำไปใช้สำหรับจ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการเติบโตและการขยายธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีโอกาส เช่น กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว และกลุ่มไอที สนับสนุนการเติบโตของ PRTR ทั้งแบบ Organic Growth และ Inorganic Growth
.
PRTR มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท โดยการจ่ายเงินปันผลพิจารณาจากผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน สภาพคล่อง แผนการลงทุน การขยายธุรกิจและความเหมาะสมอื่น ๆ รวมถึงการบริหารงานของบริษัทในอนาคต
.
ทั้งนี้ PRTR มีผู้ถือหุ้นใหญ่ภายหลัง IPO และการขายหุ้นสามัญเดิม ณ วันแรกที่เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ กลุ่มนางสาวริศรา เจริญพาณิช 17.8% นางสาวอรฤดี เกตุทวี 14.2% กลุ่มผู้บริหาร 11.0% กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม 13.7% และกลุ่ม JMART 15.0% คิดเป็นการถือหุ้นรวม 71.7% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
.
***โบรกฯ ให้เป้าราคา 8.00 – 11.80 บ./หุ้น
นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า PRTR จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการจัดจ้างพนักงาน และสรรหาบุคลากรชั้นนำของประเทศไทย ที่มีความโดดเด่น ทั้งด้านการบริหารงาน ความเป็นมืออาชีพของทีมผู้บริหาร ที่สามารถสร้างความพึงพอใจ และเสริมความแข็งแกร่งด้านทรัพยากรบุคคลให้กับลูกค้า
.
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ PRTR สามารถเติบโตต่อเนื่องแม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะหดตัวจากสถานการณ์โควิด-19 แต่รายได้ของ PRTR ระหว่างปี 63–65 ยังเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 12.1% และมีความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องในทุกปี โดยระหว่างปี 63–65 กำไรสุทธิสามารถเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 28.5%
.
นอกจากนี้ PRTR ยังมีการต่อยอดไปยังโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้แก่ แพลตฟอร์มการหางานออนไลน์อย่างครบวงจร ในชื่อ "NEXMOVE" และธุรกิจให้บริการฝึกอบรม ทั้งแบบ Online และ Offline ในชื่อ "BLACKSMITH" โดยล่าสุด PRTR ได้รุกเข้าสู่ธุรกิจให้บริการซอฟท์แวร์ด้านการบริหารจัดการบุคลากร (Human Capital Management Software) ผ่านบริษัทย่อยคือบริษัท พินโน โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งเป็นอีกธุรกิจที่มีโอกาสการเติบโตสูง ตลอดจน การมีกลุ่มผู้บริหาร และกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีความแข็งแกร่ง เป็นโอกาสในการขยาย Ecosystem ที่เอื้อต่อการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต
.
“มั่นใจว่า PRTR จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทน้องใหม่ที่มีความโดดเด่นในตลาดทุน และสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุนในระยะยาวได้”นางสาวสุวิมล กล่าว
.
ขณะที่ ในช่วงจองซื้อหุ้นสามัญให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้าน มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเป็นจำนวนมาก สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
ของบริษัทฯ และการกำหนดราคา IPO ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 7.20 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 16.3 เท่า
.
ด้าน บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำรวม 6 บริษัทหลักทรัพย์ ที่จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ให้มูลค่าพื้นฐานของ PRTR ปี 2566 ที่ 8–11.80 บ./หุ้น
.
สำหรับผลการดำเนินงานของ PRTR ในปี 65 มีรายได้จากการให้บริการ 6,111.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 199.4 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน เนื่องจากการขยายฐานรายได้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ โดยมีธุรกิจ Outsource เป็นธุรกิจหลักสัดส่วนรายได้ 95.9%
***********************************