
นักวิเคราะห์ ระบุ ตลาดหุ้นสหรัฐจะยังไม่ปรับฐานครั้งใหญ่ ขณะที่นโยบายอื่นยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ถึง "ทรัมป์" จะล้มเหลวในการผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพ
ความล้มเหลวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพคงจะทำให้ตลาดหุ้นผันผวนมากขึ้น แต่การปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาดยังไม่น่าจะเกิดขึ้นตราบใดที่นโยบายอื่นที่เอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้
นักกลยุทธ์ตลาดกล่าวว่าราคาหุ้นสหรัฐอาจปรับลงมากกว่า 5% แต่คงจะไม่ตกลง 10% ซึ่งจะเป็นระดับการปรับฐานทางเทคนิคอย่างเต็มตัว ในขณะที่นักลงทุนและนักการเมืองหันไปสนใจประเด็นปรับลดภาษี
ดัชนี S&P 500 ซึ่งได้แตะระดับสูงสุดเมื่อต้นเดือนนี้ ได้ปรับย่อตัวลงมาประมาณ 2.6% ในภาพรวม ตลาดหุ้นสหรัฐส่วนใหญ่ได้ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่วันเลือกตั้ง โดยดัชนี S&P 500 ปรับสูงขึ้น 10% บนความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเร็วขึ้นและนโยบายด้านภาษีจะหนุนตัวเลขกำไรในภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม บททดสอบแรกในความสามารถของทรัมป์ในการทำงานร่วมกับสภาคองเกรสที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่ ได้ออกมาไม่ค่อยสวยนัก หลังจากที่พรรคไม่สามารถลงมติยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพ Obamacare
บิล สโตน หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ PNC Wealth Management กล่าวว่าสภาพตลาดคงจะเรียกได้ว่ามีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่การคาดหวังเรื่องการลดภาษีเท่านั้นที่เป็นเพียงปัจจัยตัวหนึ่ง
เขากล่าวว่าตลาดหุ้นคงจะไม่ถึงกับปรับตัวลงทีเดียว 10% และไม่คิดว่าตลาดจะทรุดลงสู่แดนปรับฐานทางเทคนิค ถึงแม้ราคาหุ้นจะได้เวลาที่จะย่อตัวลงมาบ้าง ซึ่งเขากลับมองว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อ ไม่ใช่เวลาที่จะวิ่งหนีออกจากตลาด
แดน ซูซูกิ นักกลยุทธ์ตลาดหุ้นของ Bank of America Merrill Lynch กล่าวว่าตลาดจะปรับตัวลงลึกขนาดไหนจะขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะมีปฏิกิริยาอย่างไร แต่เขาคาดว่ามีโอกาสมากที่คุณทรัมป์จะหันไปสนใจเรื่องการปฏิรูประบบภาษี ซึ่งจะช่วยสกัดกระแสการเทขาย และหนุนดัชนีให้ขึ้นต่อ
การทะยานขึ้นของตลาดตามกระแสความนิยมในตัวทรัมป์ตั้งแต่วันเลือกตั้ง เริ่มแผ่วลงในช่วงตอนปลายปีที่แล้ว และตลาดได้รับแรงกดดันในช่วงต้นปีนี้เมื่อนโยบายของเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์โจมตีอย่างหนัก
ราคาหุ้นของสถาบันการเงินยังยืนอยู่ที่ระดับสูงกว่าเมื่อวันเลือกตั้ง แต่ถ้านับตั้งแต่ต้นปีมาราคาเกือบจะไม่เปลี่ยนแปลง
สโตนกล่าวว่าความเสี่ยงขณะนี้อยู่ที่ว่าการคาดหวังของตลาดในเรื่องนโยบายภาษีของทรัมป์อาจมีสูงกว่าสภาพที่ควรจะเป็น
เขากล่าวว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมจะผ่านร่างกฎหมายปรับปรุงอัตราภาษีชายแดน โดยจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตรา 20% แต่ผู้ที่คัดค้านเรื่องนี้กล่าวว่าการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์จะมีผลด้านลบที่จะหักล้างผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับจากการเก็บภาษีดังกล่าว ซึ่งจะเพิ่มภาระให้กับผู้ค้าปลีกและผู้นำเข้า
ที่มา : Money channel แปลและเรียบเรียง โดยวิฑูรย์ อมรวิรัตนสกุล