ห้องเม่าปีกเหล็ก

มุมมองทั่วโลก … ต่อชัยชนะของ ‘โจ ไบเดน’ ส่งผลดี-เสียอย่างไรในระดับนโยบาย

โดย dave
เผยแพร่ :
68 views

มุมมองทั่วโลก … ต่อชัยชนะของ ‘โจ ไบเดน’ ส่งผลดี-เสียอย่างไรในระดับนโยบาย

แม้ว่าการนับคะแนนการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐ จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% แต่ตัวเลขล่าสุดสามารถสรุปชัยชนะของ โจ ไบเดน ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาของชาวโลก และหลายประเทศได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีคนใหม่ไว้อย่างน่าสนใจ

จีน

นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าชัยชนะของ โจ ไบเดน อาจเป็นผลดีสำหรับจีนและสหรัฐฯ ในการแสวงหาผลประโยชน์จากความพยายามในการฟื้นฟูด้านความร่วมมือต่างๆ ระหว่างทั้งสองรัฐบาล ทั้งทางด้านการค้า เทคโนโลยี ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ (ภาวะโลกร้อน)

แต่ชัยชนะของ โจ ไบเดน ยังถือเป็นความท้าทายสำหรับจีน เนื่องจากความแตกแยกภายในประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้การปกครองของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเสมือนความหวังอันยาวนานของจีนที่จะเห็นความเสื่อมถอยทางอำนาจของสหรัฐฯ แต่ โจ ไบเดน กำลังแสดงให้เห็นว่าอำนาจและค่านิยมของอเมริกาจะยังคงมีอยู่ต่อไป

อินเดีย

อินเดียเป็นพันธมิตรที่สำคัญกับสหรัฐฯ มายาวนานและคาดว่าทิศทางต่างๆ ภายใต้การนำของ โจ ไบเดน ไม่น่ามีความเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่การดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของ กมลา แฮร์ริส ซึ่งสืบเชื้อสายชาวอินเดีย และเป็นผู้ที่กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน นโยบายรัฐบาลชาตินิยมของชาวฮินดู จะกลายเป็นผู้ที่จุดประกายให้ชาวอินเดียหันมาสนใจและเฉลิมฉลองกับชัยชนะของบุคคลร่วมชาติในครั้งนี้ และน่าจะส่งผลให้ทั้งสองประเทศพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นไปอีกขั้น

เกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้

โจ ไบเดน ได้เคยเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยกเลิกแผนอาวุธนิวเคลียร์ก่อนที่จะมีการพบปะเพื่อหารือกับคิม จอง อิล แต่เกาหลีเหนือยังคงมีท่าทีที่จะเดินหน้าแผนการดังกล่าว ทำให้นักวิเคราะห์ต่างมองว่าหากทีมรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่เร่งดำเนินการหารือกับรัฐบาลเปียงยางโดยเร็ว น่าจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งและความตึงเครียดอย่างแน่นอน

แม้ว่าฝ่ายรัฐบาลเกาหลีใต้จะค่อนข้างประสบปัญหาในการหารือกับรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ แต่ประธานาธิบดีมุน แจอิน มีความพร้อมที่จะยุติสงครามคาบสมุทรเกาหลีที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 70 ปี และได้ยกย่องประธานาธิบดีทรัมป์ว่ามีความกล้าหาญในการเข้าพบกับคิม จอง อิล และเกาหลีใต้ยังคงจับตามองสัญญาณจากว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ว่าจะมีความพร้อมในการดำเนินการเช่นเดียวกันหรือไม่

อังกฤษ

พรรคเดโมแครตมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับประชามติ Brexit ของอังกฤษในการถอนตัวออกจากสมาชิก EU ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสันติภาพในไอร์แลนด์เหนือตั้งแต่สมัยรัฐบาลบารัก โอบามา ซึ่งในขณะนั้น โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในอนาคตต่อจากนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ทางการค้าน่าจะต้องขึ้นอยู่กับการเคารพข้อตกลงการสร้างความปรองดองแห่งชาติไอร์แลนด์เหนือเป็นหลัก

รัสเซีย

รัฐบาลรัสเซียมีท่าทีกังวลว่าการดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐ ของ โจ ไบเดน จะนำมาซึ่งแรงกดดันและมาตรการลงโทษรัสเซียมากขึ้น เนื่องจากนายไบเดนมองว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคามสูงสุดสำหรับสหรัฐอเมริกา แต่ชัยชนะของพรรคเดโมแครตอาจเป็นเวลาที่รัสเซียรอคอยเพื่อแก้แค้นหลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปี 2559 ก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของรัสเซียมองว่าชัยชนะของนายไบเดนอาจจะกลายเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้กับทั้งสองฝ่ายได้ เนื่องจากรัฐบาลของนายไบเดนน่าจะมีความแน่นอนและคาดเดาท่าทีได้ง่ายกว่า และอาจส่งผลให้บรรลุข้อตกลงใหม่ หรือเริ่มต้นรื้อฟื้นประเด็นที่คั่งค้าง เช่น สนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และ รัสเซีย ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดอายุในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับต่างประเทศภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การเปลี่ยนถ่ายอำนาจใหม่ในครั้งนี้จึงถือเป็นการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองที่ได้รับความสนใจจากชาวโลกถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


dave