ห้องเม่าปีกเหล็ก

จอร์จ โซรอส - ลงทุนอย่างไร ให้ได้เงินมหาศาล ในภาพระยะกลาง By PreedaZafilos

โดย PreedaZafilos
เผยแพร่ :
62 views

จอร์จ โซรอส พ่อมดทางการเงิน ยุค Fiat Currency อย่างแท้จริง ในด้านการเงินโลกยุคใหม่ Cryptocurrency ยังไม่มีใคร ปั่นกำไรมหาศาล สร้าง ROI มหาศาลในภาพระยะกลาง 2 - 5 ปี และสามารถทำกำไรในช่วงตลาดขาขึ้นอย่างมหาศาลได้ตลอดเวลา

ในทางด้านการเงิน ถ้าอยากมีเงินมหาศาล การพูดถึงเงินที่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ในภาพระยะกลาง คุณแทบไม่มีสิทธ์กำหนดทิศทางตลาดใด ตลาดหนึ่งได้ ในเกมของการเงินแล้ว การที่มีเงินน้อยกว่า หมายถึง โอกาสที่จะแพ้มากกว่า และจะไม่สามารถคอนโทรลทิศทางตลาดได้

ในตลาดหุ้นใทย กลุ่มนักลงทุน ประกอบไปด้วย 4 กลุ่มหลัก
1. สถาบันในประเทศ
2. บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 
3. นักลงทุนต่างประเทศ
4. นักลงทุนทั่วไปในประเทศ

มีเพียง 2 กลุ่ม คือ นักลงทุนสถาบันในประเทศ หรือ กองทุน กับ นักลงทุนต่างประเทศ ที่สามารถคอนโทรลตลาดหุ้น SET Index ได้ ด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล และแน่นอน พวกเขาจะเปิด Long หรือ Short ในช่วงที่ตลาดเกิดภาพ Overbought และ Oversold ในภาพระยะกลาง และลงมาแนวรับจิตวิทยาสำคัญ กับ ขึ้นชนแนวต้านจิตวิทยาสำคัญ และแนวต้านจิตวิทยา รวมทั้งดูกราฟในทาง Technical ด้วย

การจะเป็นนักลงทุนคริปโทรเคอร์เรนซี่แถวหน้าของโลก ผมมองว่า มันไม่ใช่แค่การถือครองสินทรัพย์ดิจิตอล Cryptocurrency จำนวนมาก เพียงอย่างเดียว แม้ว่าคริปโต หรือ Bitcoin จะเป็นสินทรัพย์แบบ Decentralized แต่อย่างลืมว่า ธนาคาร สถาบันการเงิน แบบ Centralized ไม่ได้หายไป เราต่างรู้ว่าธนาคารต่างๆ หันมาใช้เทคโนโลยี Blockchain กันมากขึ้น และสร้าง (central bank digital currency: CBDC) แม้จะมีความเป็น Centrailized เต็มเปี่ยม ก็ถือเป็นการปรับตัวมาแข่งกับการเงินยุคใหม่

ผมจึงมองว่าสถาบันการเงิน ธนาคาร ไม่ได้หายไปจากโลก นักลงทุนคริปโทรเคอร์เรนซี่ จะต้องบริหารการเงินแบบ Decentralized และ Centralized ควบคู่กัน และผมมองว่าการลงทุนระดับโลก หรือ Global Investment ควรไปมุ่งเน้นที่สินทรัพย์ที่เป็น Decentralized เพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถ Connect กับคนทั้งโลกในเวลาอันสั้น ส่วนการลงทุนอ้างอิงกับสถาบันการเงิน ธนาคาร ที่เป็น Centralized จะเป็นการลงทุนแบบ Local หรือ ภายในประเทศมากกว่า

ถ้าถามผมว่า ทองคำ กับ บิทคอยน์ อันไหนเป็น Save Heaven ทางด้านการเงินทุนมากกว่ากัน ผมมองว่า ณ วันนี้ ทองคำเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากจำนวน Marketcap มากกว่า มีนักลงทุนเข้าถึงมากกว่า แต่สินทรัพย์ทั้งสอง มีความคล้ายคลึงกัน แต่คริปโทเคอร์เรนซี่ มันจะไม่อ้างอิงกับ ตลาดหุ้นอเมริกา ดัชนี Dow Jones , S&P 500 , Nasdaq และค่าเงินดอลลาร์ เท่ากับมันไม่มีปัจจัยมากระทบต่อราคาของมันนั่นเอง

เมื่อเราเห็นตลาดหุ้น SET Index หรือตลาดหุ้นใดๆ ถึงตลาดเกิดภาพ All Time High และสัญญาณทาง Technical Confirm ตลาดเป็นขาลงรอบใหญ่ การโยกเงินจากตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ เพื่อเข้ามา Short ขาลงในตลาดหุ้น จึงเป็นการทำกำไรมหาศาล ไม่ว่าในภาพทาง Technical และ Life Cycle ของตลาดการลงทุน ขาขึ้นเฉลี่ย 10 ปี และขาลงเฉลี่ย 3 ปี กลับกันเมื่อตลาดหุ้น จบรอบขาลง ลงถึงจุดต่ำสุด หรือ จุด Bottom ในภาพระยะกลาง สัญญาณ Tehnical Confirm เกิดการ Uptrend Divergence อีกทั้ง ภาพระยะสั้นในทางเทคนิคคอลเกิดการ Breakout เหนือแนวต้านเทคนิคคอล และแนวต้านจิตวิทยาสำคัญ ก็สามารถโยกเงินจากตลาด Cryptocurrency เพื่อซื้อ หรือ เปิดสถานะ Long ทำกำไรในภาพระยะกลาง

การลงทุนที่ดีจำเป็นต้องเข้าใจทั้ง 2 ตลาดอย่างแท้จริง และสามารถเทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูงๆ หรือ ตลาดที่มีความผันผวนน้อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางด้าน Technical มันไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบการเล่น เพียงแต่ต้องเปลี่ยนวิธีคิด ความรวดเร็วในการเข้าออก ซึ่ง แต่ละตลาดแตกต่างกัน

ไม่ว่าจะมีความรู้ ความเข้าใจ หรือ มี Technical ที่ดีมากเพียงใด ผมก็มองว่า การมีเงิน มีต้นทุน ในการลงทุน จำนวนมากๆ เป็นข้อได้เปรียบสำคัญ ช่วยทำให้ลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี และสามารถแข่งขันกับปัจจัยที่มากระทบต่อตลาด

ส่วนตัวผมหากเราเริ่มเทรดตันแต่ภาพตลาดเป็นขาขึ้น หลังจากถึงจุด Bottom ไปเรียบร้อยแล้ว การทำกำไรจากตลาดหุ้น เฉลี่ยจะอยู่ที่ 30% ต่อปี นับรวมจากเงินในพอร์ตทั้งหมด ไม่ได้ระบุเป็นหุ้นรายตัวที่ช้อนไว้ และความเสี่ยงจะน้อยกว่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ สามารถทำกำไรเฉลี่ยมากกว่า 50% ต่อปี แต่มีความเสี่ยงสูงกว่า

การสร้างรายได้มหาศาลไม่ใช่เรื่องง่าย เราจะต้องมีสิ่งที่นักลงทุนคนอื่นไม่มี มี Mindset ที่ดี เข้าใจตลาด โดยไม่ใช้อารมณ์ ความรู้สึก ตัดสินภาพการเคลื่อนที่ของตลาด คุณต้องรู้จักตัวเอง ว่ามีศักยภาพแค่ไหน ในการสร้างกำไรจากหลายๆ ตลาด ต้องใช้เวลากี่ปี คุณจะมีเงิน 1,000 ล้านบาท และคุณจะก้าวไปสู่เงิน 10,000 ล้านบาท บนตลาดที่หลากหลาย ไม่ว่าตลาดหุ้น ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ ทั่วโลก ได้อย่างไร

 
ขอบคุณครับ

PreedaZafilos