ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจาะหุ้น ORI ผุดโครงการใหม่ หนุนให้หุ้นคึกคัก

โดย S2M Ads
เผยแพร่ :
94 views

ปี 2560 คาดมีการฟื้นตัวของอุปสงค์ในส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากข้อมูลดัชนีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยปี 2559 พบว่า เฉลี่ยเท่ากับ 61.7 จนมาถึงเมื่อเดือนมกราคม 2560 เท่ากับ 63.8 จุด จึงมีโอกาสที่ดัชนีความเชื่อมั่นจะฟื้นตัวดีขึ้นจากจุดต่ำสุดช่วงปี 2559

หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งเข้าตลาดมาได้ไม่นาน อย่าง บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) : ORI เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทฯ บริษัท ออริจิ้น วัน จำกัด (" ออริจิ้น วัน ") บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด (" ออริจิ้น คอนโด ")  บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล จำกัด (" เวอร์ติเคิล ") บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล 2 จำกัด (" เวอร์ติเคิล 2 ") บริษัท ออริจิ้น สาทร จำกัด (" ออริจิ้น สาทร ") บริษัท ออริจิ้น ไพรม์ จำกัด (" ไพรม์ “) บริษัท ออริจิ้น สเฟียร์ จำกัด (" สเฟียร์ ") และ บริษัท ออริจิ้น เฮ้าส์ จำกัด(" เฮ้าส์ ")

และธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บริการจัดหาผู้เช่าห้องชุด และบริการรับจ้างบริหารโครงการนิติบุคคลอาคารชุดให้แก่โครงการที่บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนา ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท พรีโม พร็อพเพอร์ตี้ โซลูชั่น จำกัด (“ พรีโม ”) ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีการออกแบบโครงการที่มีเอกลักษณ์พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานห้องชุดที่คุ้มค่า และให้ความสำคัญในด้านการบริการหลังการขาย

 

3  ประเภทธุรกิจของบริษัทที่ ORI โฟกัส ได้แก่ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทสร้างรายได้ต่อเนื่อง อาทิธุรกิจโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ .. และธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์
(ที่มาภาพ : ข้อมูลบริษัทฯ)

-----------------------------------------

ภาพรวมโดยทั่วไป

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมที่เป็นผู้บุกเบิกโครงการคอนโดมิเนียมบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง จังหวัดสมุทรปราการ และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง 

โดยปัจจุบันบริษัทยังได้ขยายการพัฒนาโครงการไปในทำเลศักยภาพต่างๆ เช่น ทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำเลใจกลางเมือง สาทร-นราธิวาส เจริญกรุง และ ทำเลเมืองอุตสาหกรรมศรีราชา – แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยปัจจุบัน บริษัทได้มีการขยายการดำเนินธุรกิจ ให้ครอบคลุมไปยังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น

 

 

หุ้น ORI มีจำนวนหุ้น 1,101.27 ล้านหุ้น ราคาพาร์ที่ 0.5 บาท ถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มจรูญเอก และมีเซียนหุ้น VI อย่างคุณนเรศ งามอภิชน ที่นักลงทุนอาจรู้จักกันดี

 

สำหรับงบการเงินปี 59 ของบริษัท ORI ทั้งรายได้และกำไรสุทธิเติบโตจากปี 58 ประมาณ 55% , 65% ตามลำดับ, ORI ถือว่าเติบโตได้ดี โดยเฉพาะ Gross Margin ที่ระดับ 45% และ Profit Margin ที่ระดับ 20% และอัตรา ROE ที่ระดับ 32% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูง หากเทียบกับในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จึงได้รับการจับตามองว่าเป็นหุ้นที่เติบโตได้ดี หากเทียบกับธุรกิจในกลุ่มอสังหาฯ ที่ขนาดใกล้เคียงกัน

 

เครดิตรูปภาพ : www.set.or.th

 

อย่างไรก็ตามหากโฟกัสที่อัตรา ROE ล่าสุดของบริษัท จะเห็นได้ว่าหุ้น ORI เป็นหุ้นที่น่าสนใจต่อการลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน โดยล่าสุดได้เสนอการจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 2.5 : 1 และปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผลรวม 0.24 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นสัญลักษณ์ XD ในวันที่ 17 เมษายน 2560 โดยปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่20 เมษายน 2560และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2560

 

ล่าสุดกับโครงการ Notting Hill สุขุมวิท 105 บนทำเลศักยภาพรถไฟฟ้าสายสีเขียว ย่านบางนา – แบริ่ง  

 

ดูข้อมูลเพิ่มเติม : http://origin.co.th/TH/


ในปี 2016 - 2017 ของ ORI
โปรเจคของ ORI เติบโตอย่างโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Presale ที่โตมากกว่า 100% หรือ Backlog ที่เติบโตและพร้อมรับรู้รายได้ถึง 88%  ถือว่าโดดเด่นมากกับผลงานในปี 2016 ที่เปิดตัวโครงการ 9 โครงการ และมียอด Presale เฉลี่ยรวมถึงกว่า 70% ของมูลค่าโครงการรวม 11,340 ล้านบาท

 

 

ยอด Presale และ Backlog ของบริษัททำได้ดีมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทที่เดินมาถูกทาง และบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ระหว่างทางจะเผชิญกับแรงกดดัน และสภาวะตลาดคอนโดมีเนียมที่มีการแข่งขันที่สูง
(ที่มาภาพ : สไลด์สัมนา Oppday ของ ORI )

 

กลยุทธ์ที่ทำให้ ORI ประสบความสำเร็จที่ผ่านมา คือ การรุกตลาด Blue Ocean โดยเน้นที่การหาทำเลที่มีศักยภาพ พร้อมทั้งมีปริมานกำลังซื้อที่ดี และยังไม่มีการแข่งขันที่สูง ผ่านการทำการวิจัยและวิเคราะห์จากทีม Research ของบริษัท ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องดังกล่าว



ในปี 2017 ทาง ORI จะเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท และเริ่มจับธุรกิจซึ่งเป็นธุรกิจโรงแรม โดยปัจจุบันได้จับมือกับกลุ่ม Holiday Inn พร้อมพัฒนาเป็นที่เรียบร้อย ในทำเลศักยภาพย่านแหลมฉบัง – ศรีราชา และธุรกิจคอมมูนิตี้มอล ซึ่งนอกจากธุรกิจดังกล่าว บริษัทยังมีแผนทำธุรกิจ Service Apartment อีกด้วย

 

 

ธุรกิจการให้บริการของบริษัท ที่มีการเติบโตในอัตราที่ดี ซึ่งในอนาคตอาจจะเป็นแรงผลักดันผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ
(ที่มาภาพ : สไลด์สัมนา Oppday ของ ORI )

 


ธุรกิจ Property Management and Service Business ได้บริษัท Primo Property Solution เป็นแกนหลักในการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตที่ดี โดยในปี 2015 มีรายได้ประมาณ 16 ล้านบาท และในปี 2016 มีรายได้เพิ่มเป็น 63 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2017 จะเพิ่มเป็น 120 ล้านบาท

 

อุปสงค์และอุปทานและยอดขายของตลาดคอนโดมีเนียมในกรุงเทพมหานคร

(ที่มาภาพ : http://www.realist.co.th/blog/)

 

แนวโน้มตลาดคอนโดมีเนียมในกรุงเทพมหานคร
(ที่มาภาพ : Realist Blog)

 

จากข้อมูล อุปสงค์และอุปทานและยอดขาย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ตลาดอุปทานของคอนโดกลุ่ม CITY จะเพิ่มขึ้นมากที่สุด และราคาคอนโดกลุ่ม Super Luxury มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงที่สุด ยังต้องดูว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ทาง ORI เข้าไปจับจะมีปริมาณอุปสงค์สอดคล้องกันมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากตลาดคอนโดมีภาวะแข่งขันกันสูง และเรื่องการปล่อยกู้ยากขึ้นของสินเชื่อกลุ่มธนาคารประกอบด้วย

 

ในมุมของนักวิเคราะห์ต่อหุ้น ORI มองกันอย่างไร ?

 

LH Securities กล่าวในบทวิเคราะห์ว่า มองบวกต่อในปี 2560 และราคาหุ้นอยู่ในโซน Upside จำกัด สถานะปัจจุบัน คงคำแนะนำ "ถือ" เนื่องจากเห็นโอกาสเติบโตของบริษัท และมองปัจจัยเสี่ยงของบริษัท คือ การพึ่งพารายได้จากคอนโดมากเกินไป ซึ่งในปัจจุบันคู่แข่งในตลาดคอนโดมีจำนวนมาก ซึ่งปีนี้ ORI ก็มีแผนบริหารความเสี่ยงเรื่องดังกล่าว โดยเตรียมเปิดโครงการแนวราบในเร็วๆ นี้

 

เป้าหมาย แผนธุรกิจ Backlog แข็งแกร่ง

Asia Plus กล่าวในบทวิเคราะห์ว่า ให้รอจังหวะการลงทุนรอบใหม่ เมื่อเกิด upside ของราคาหุ้น โดย ORI มีโครงการใหม่ที่จะเน้นเปิดตัวตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น และขยับฐานลุกค้าสู่ระดับกลางไปจนถึงกลางบน

 

นอกจากนี้ ORI ยังเปิดตัวโครงการแนวราบแห่งแรกบนถนนศรีนครินทร์มูลค่า 700 ล้านบาท ซึ่งแตกธุรกิจเพิ่มที่ไม่ได้เน้นแต่คอนโดเพียงอย่างเดียว 

 

แผนในอนาคตของบริษัท คือ จะมีการจัดตั้งกองทุน REIT และ Spin Off ธุรกิจให้บริการ คือ Primo Property Solution ซึ่งให้บริการจัดหาผู้เช่า รับบริหารนิติบุคคล นายหน้าขายห้องชุด และธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ ในอีก 2 ปีข้างหน้า

 

 

ตลาดคอนโดมีเนียมค่อนข้างตึงตัวมากในช่วงที่ผ่านมา ยกเว้นตลาดระดับบนที่ยังมีความต้องการซื้อซัพพอร์ตอยู่ 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวในบทวิเคราะห์ว่า ข่าวดีต่างๆ สะท้อนลงไปในราคาหุ้นมากแล้ว แต่ยังคงให้คำแนะนำการลงทุนเป็น "ถือ" ด้วยเหตุผลว่า บริษัทมีคาดการณ์แนวโน้มไปในทางที่ดี และมีเป้าหมายระยะยาวในเชิงรุกมากขึ้น พร้อมการรับรู้ในแบรนด์ที่ดีขึ้นผ่านโครงการในมือที่มีมากขึ้น รวมถึงแผนการเน้นการรับรู้จากการให้บริการ จะทำให้ ORI โดดเด่นในระยะยาว

 

 

ราคาหุ้นที่เพิ่ม สะท้อนการเติบโตของผลประกอบการที่ก้าวกระโดด ถึงแม้ราคาหุ้นในปัจจุบันจะถูกมองว่าสูง แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้คำแนะนำ "ถือ" เนื่องจากเชื่อมั่นในแผนธุรกิจของบริษัท และแนวโน้มการเติบโตของรายได้ในอนาคต

สรุป


หุ้น ORI ดูจากปัจจัยพื้นฐานแล้วถือว่าน่าสนใจ เพราะค่อนข้างโดดเด่นในตลาดคอนโดมีเนียม อีกทั้งยังมีธุรกิจให้บริการ และธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทสร้างรายได้ต่อเนื่อง เป็นแรงผลักดันในอนาคต ซึ่งธุรกิจโรงแรมยังเป็นเมกะเทรนต์ของประเทศไทยสำหรับธีมการท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้สนใจควร ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในเชิงลึก และดูช่วงจังหวะ ดังนั้นผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

---------------------------------------

 

>>>พิเศษกิจกรรมอสังหาฯ 3 เด้ง : ลงอสังหาฯ ให้เซียน แกะหุ้นอสังหาให้พรุน และคอนโดที่คุ้มที่สุดบนรถไฟฟ้าสายสีเขียว<<<

เชิญชวนไปฟังสัมมนาฟรี ในวันงานสัมมนานี้ ฝั่งด้านการลงทุนหุ้นพบกับคุณปุย ประกาศิต ทิตาราม (เจ้าของหนังสือ Best Seller “โต้คลื่นหุ้น รู้ทันเทคนิค" ในนามปากกาว่า Wave Riders)

กับฝั่งด้านอสังหาริมทรัพย์, พบกับคุณท้อป สุธาทร สุทธิสนธิ์ (Co-founder ของ www.prop2morrow.com), และคุณจ๊อก สุรเชษฐ กองชีพ (รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยของ คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย)


S2M Ads