ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องโค้งสุดท้าย 5 หุ้นลีสซิ่ง

โดย dave
เผยแพร่ :
449 views

ส่องโค้งสุดท้าย 5 หุ้นลีสซิ่ง

คาดกำไรปี 65 SAWAD ร่วงสวนกลุ่ม

.

เข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี 2565 แล้ว อีกไม่กี่อึดใจนักลงทุนจะได้เห็นภาพรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งหุ้นกลุ่มลีสซิ่ง เป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่อเนื่อง

.

วันนี้ Wealthy Thai จึงมีคาดการณ์แนวโน้มไตรมาส 4/65 และกำไรสุทธิในปี 2565 ของ 5 หุ้นลีสซิ่งอย่าง TIDLOR, SAWAD, MTC, HENG และ SAK มาฝาก มาดูกันว่าบริษัทจะสร้างการเติบโตได้มากกว่ากัน

.

มาเริ่มที่ TIDLOR หรือ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์จากบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า เบื้องต้นคาดกําไรสุทธิไตรมาส 4/65 จะทรงตัวใกล้เคียงไตรมาส 3/65 แต่เติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 จากแนวโน้มสินเชื่อและรายได้นายหน้าประกันภัยเติบโตต่อเนื่องตามฤดูกาล หักล้างแนวโน้ม Cost to income ratio ในไตรมาส 4/65 ที่จะปรับเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลไปได้ทั้งหมด

.

โดยคงประมาณการ คาดกําไรสุทธิปี 2565-2566 จะเติบโต 16.9% หรืออยู่ที่ 3,706 ล้านบาท และ 19.8% หรืออยู่ที่ 4,439 ล้านบาท ตามลำดับ จากแนวโน้มสินเชื่อสุทธิที่จะเติบโตต่อเนื่อง และแนวโน้มสัดส่วน Cost to income ที่ปรับลดลง จากการประหยัดต่อขนาด ดังนั้นฝ่ายวิเคราะหจึงคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 34 บาท

.

ถัดมา SAWAD หรือ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ทรงตัวจากไตรมาส 4/64 แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/65 เพราะการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย (NII) และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) สำหรับค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) คาดเพิ่มขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เพราะการreverse ECL จากการลดลงของพอร์ตสินเชื่อ BFIT น้อยลง การเติบโตของสินเชื่อรวม และการขยายไปยังสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ซึ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้น

.

ส่วนกำไรปี 2565 คาดการณ์ที่ 4,346 ล้านบาท ลดลง 7.6% จากปีก่อน ขณะที่ปี 2566-2567 ฝ่ายวิจัยปรับกำไรสุทธิลงปีละ 9% อยู่ที่ 4,796 ล้านบาท และ 5,641 ล้านบาท ตามลำดับจากกฎเกณฑ์สัญญาเช่าซื้อใหม่ที่มีการกำหนดเพดานดอกเบี้ยรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% ต่อปี เทียบกับ SAWAD ปล่อยสินเชื่อที่ประมาณ 30% ต่อปี โดยยังคงคำแนะนำ ซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 52 บาท

.

MTC หรือ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) บล.พาย ระบุว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 จะโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า จาก NII และรายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิจะฟื้นตัว 5% ในปี 2565 มาอยู่ที่ 5,200 ล้านบาท และโต 10% และ 19% ในปี 2566-2567 ตามลำดับ จาก NII ที่สูงขึ้นและสินเชื่อที่โตต่อเนื่อง คงคําแนะนํา "ซื้อ" แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงจาก 54 บาท เป็น 43 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรและอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ลง

.

HENG หรือ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) โดยบล. กสิกรไทย ระบุว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 จะเติบโตจากไตรมาส 4/64 และไตรมาส 3/65 โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาจาก NII และ non-NII ที่สูงขึ้นจากพอร์ตสินเชื่อที่ใหญ่ขึ้น ส่วนการเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าได้แรงหนุนจาก NII ที่สูงขึ้นจากการเติบโตของสินเชื่อ การควบคุมต้นทุนที่ดี และต้นทุนสินเชื่อที่คาดว่าจะลดลง

.

โดยคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 3.6 บาท ฝ่ายวิจัยชอบ HENG จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ควบคุมได้เทียบกับคู่แข่ง ได้รับผลกระทบน้อยกว่าจากเพดานอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของสคบ. สำหรับสินเชื่อเช่าซี้อรถยนต์มือสองที่ 15% จากความยืดหยุ่นในประเภทของสินเชื่อที่เสนอให้ผู้บริโภค และกำไรในปี 2565-2567 ที่คาดจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 21% ที่ 430 ล้านบาท, 57% ที่ 675 ล้านบาท และ 25% ที่ 843 ล้านบาท ตามลำดับ

.

สุดท้าย SAK หรือ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) บล.กสิกรไทย ระบุว่า คาดกำไรไตรมาส 4/65 จะทรงตัวจากไตรมาส 4/64 แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/65 โดยกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าได้รับแรงหนุนจากพอร์ตสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น NIM ที่คงที่ และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาดที่ดีขึ้น

.

อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรจะทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ฝ่ายวิจัยจะคาดว่า PPOP จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการเติบโตของสินเชื่อตามการขยายสาขา แต่จะถูกชดเชยด้วยผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่สูงขึ้นจากอัตราส่วน NPL ที่คาดว่าจะสูงขึ้นในไตรมาส 4/2565 เป็น 2.76%

.

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ปี 2565 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.4% จากปีก่อน และยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 7.7 บาท

 


dave