ครั้งหนึ่งในตลาดหุ้น เคยมีเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดมากอยู่เหตุการณ์หนึ่ง คือ หุ้นที่ถือโดยเจ้าสัวเจริญ หรือมีเจ้าสัวเจริญเข้าไปเกี่ยวข้อง (เช่น TIPCO) ต่างวิ่งกันเป็นบ้าเป็นหลัง ณ เวลานั้น หุ้นกลุ่มเจ้าสัวเจริญไม่ว่าจะเป็น BJC UV GOLD OISHI SSC ต่างวิ่งกันคึกคัก สร้างกำไรให้กับนักลงทุนมากกว่า 100% ในเวลาสั้นๆ จนเกิดคำพูดที่ว่า "หุ้นเจ้าสัวเจริญ ไม่เคยถูก" เหตุการณ์นี้กำลังจะกลับมาอีกครั้งกับหุ้นลูกรักอย่าง BJC หรือ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)
BJC ได้กลายมาเป็นเรือธง (Flag Ship) ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญในด้านค้าปลีก และซัพพลายเชนให้กับสินค้าในเครือเบียร์ช้าง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตขวดแก้ว กระป๋องอลูมิเนียม รับบรรจุภัณฑ์ ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงกระจายสินค้าไปยังตลาดเวียดนามที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สินค้าในเครือเบียร์ช้างมีเยอะมาก เยอะจน BJC เองก็รับไม่ไหว จึงมีการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เมื่อลงทุนเพิ่มแถมยังมีออเดอร์แบบเต็มกำลังการผลิตแบบนี้ รายได้จะไม่เพิ่มได้อย่างไร รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม จึงไม่แปลกที่หุ้น BJC จะวิ่งแรงได้ขนาดนี้ ประกอบกับหุ้นที่ถูกปล่อยมาในตลาดมีไม่เยอะเพราะส่วนใหญ่แล้วอยู่ในมือของเจ้าสัวเจริญหมด คนที่อยากได้ก็ต้องปีนซื้อในราคาที่มีพรีเมี่ยม
วันนี้ BIGC ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าได้สิ้นสุดเวลาตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ BIGC ณ วันที่ 12 กันยายน 2560
ทาง BJC ออกมาแจ้งว่า สาเหตุที่ต้องถอน BIGC ออกจากตลาดหุ้นเป็นเพราะมี Free Float เพียง 2% ซึ่งกว่าเกณฑ์ที่ ตลท.กำหนด และไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมรายปี จึงเอาออกจากการเทรดในกระดาน และยังกล่าวต่อไปอีกว่า การมี BIGC ทำให้ BJC รับรู้รายได้จากยอดขายของ BIGC ที่มีสาขามากกว่า 665 สาขา อีกทั้งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 7-8 พันล้านขยายสาขาของบิ๊กซีเพิ่มเติมโดยเน้นที่ไปมินิบิ๊กซีประมาณ 200 สาขา โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามไปเป็นเบอร์ 2 ในตลาดค้าปลีกให้ได้ ซึ่งปัจจุบันนี้มี Family Mart ที่มีสาขา 1500 สาขา แต่จะขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ได้หรือไม่นั้น ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่
ในตลาดต่างประเทศ จะเอาบิ๊กซีรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตไปเปิดที่กัมพูชา และลาวอีก 1 แห่ง พร้อมกับเปลี่ยนชื่อร้านเอ็มพ้อยท์ในประเทศลาวเป็นมินิบิ๊กซี เพื่อเชื่อมโยงแบรนด์กับประเทศไทยเข้าด้วยกัน
บล.บัวหลวง วิเคราะห์ไว้ว่า กำไรของ BJC มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมากในไตรมาส 4/60 และจะดีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2561 การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของ BIGC ต่อสาขาเดิม การขยายสาขาใหม่ เน้นการขายอาหารสด การเปิดตัวเฮาส์แบรนด์อย่าง Besico ทำให้ภาพรวมของรายได้ดีขึ้นอย่างมาก แนะนำซื้อ BJC ใหราคา 56.50 บาท
โดยภาพรวมแล้ว BJC เติบโตอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอนาคตที่จะเป็น "เริอธง" ของกลุ่มไทยเบฟ การควบรวมกับ BIGC ที่่ช่วยปลดล๊อคการเติบโตที่มีอยู่อย่างจำกัด สภาพคล่องของหุ้นที่น้อยและอยู่ในมือเจ้าสัวหมด จึงไม่แปลกที่ราคาหุ้นวิ่งกันรุนแรง ดังคำกล่าวที่ว่า "หุ้นเจ้าสัว ไม่เคยถูก" สงสัยคำพูดนี้จะเป็นจริงอีกครั้ง ....
----------------------------------
เขียนโดย : คนเล่นหุ้น
----------------------------------