โดย aomwinwin
เผยแพร่ : 
65 views
ต่างชาติย้ายฐานผลิต หนุนดีมานด์พุ่ง เผยแผนครึ่งปีหลังขยายงานด้านการให้บริการโลจิสติกส์ ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ร่วมกับ SEL และเล็งจับมือพันธมิตรใหม่ ยกระดับบริการครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย มั่นใจรายได้รวมทั้งปีโตฉลุยไม่ต่ำกว่า30% แตะ 1.3 พันล.
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ช่วงครึ่งหลังปี 60 ยังสามารถขยายตัวในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และการย้ายฐานผลิต ของผู้ประกอบการประเทศต่างๆ เข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้ความต้องการบริการโลจิสติกส์ด้านต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 60 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในส่วนของการให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ และงานบริการขนส่งในประเทศ งานด้านการขนส่งข้ามชายแดน และการบริหารคลังสินค้า พร้อมขยายฐานลูกค้าในส่วนของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบ Door-to-Door พร้อมกับร่วมพัฒนาและโปรโมทงานขนส่งทางอากาศ ( Air Freight) เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ร่วมกันกับ Sun Express Logistics Pte. Ltd. (SEL) ประเทศสิงคโปร์ คาดว่าจะได้รับงานจากลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก
“แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีอัตราการเติบโตดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับบริษัทได้ลูกค้าใหม่จากจีนเป็นผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ที่ย้ายฐานการผลิต เข้ามายังประเทศไทย ขณะที่ฐานลูกค้าเดิมของบริษัท ก็มีปริมาณงานเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน”นายชูเดช กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้ายกระดับงานบริการทุกด้าน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำโลจิสติกส์ในระดับภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีบริการที่ครบวงจร สามารถให้บริการได้ครอบคลุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางการค้าที่สำคัญ โดยบริษัท จะมุ่งเน้นการสร้างโครงข่ายพันธมิตรในธุรกิจขนส่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการเข้าซื้อกิจการหรือร่วมลงทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจในรูปแบบเดียวกับ SEL
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่ารายได้รวมของบริษัทปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% อยู่ที่ประมาณ 1,300 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 24 ปี เนื่องจากปริมาณงานขนส่งทางอากาศ ทางเรือ บริการให้เช่าคลังสินค้า งานขนส่งภายในประเทศและระหว่างประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ WICE แบ่งเป็น Sea Freight 45%, Air Freight 35%, การให้บริการ Logistics 20%ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 24-25% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนตามปริมาณงานขนส่งทางอากาศที่เพิ่มขึ้น
