Good Morning News โดยกองทุนบัวหลวง, มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน
24 สิงหาคม 2559
...................................
พิชา เลียงเจริญสิทธิ์, Fund Management
Guru Quote
“เราเคารพการตัดสินใจของอังกฤษ ที่ต้องการออกจากอียู สิ่งที่พวกเราต้องทำเวลานี้คือ ช่วยทำให้แน่ใจว่าอีก 27 ประเทศที่เหลืออยู่นั้น จะมีเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น”
อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
General News
• มาร์กิตรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI Composite) เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือน ส.ค. ว่าเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (53.2) เล็กน้อยที่ 53.3 ทั้งที่ตลาดคาดว่าจะทรงตัว โดยดัชนีภาคการบริการปรับขึ้นจาก 52.9 เป็น 53.1 แต่ดัชนีภาคการผลิตลดลงจาก 52.0 เหลือ 51.8 ส่วนดัชนีรวมของประเทศใหญ่อย่างฝรั่งเศสนั้นปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่เยอรมนีปรับลดลง เมื่อพิจารณาภาพรวมแล้ว ดัชนีต่างๆ ยังบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนยังรักษาอัตราการขยายตัวไว้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
• มาร์กิตรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. ว่าลดลงจากเดือนก่อน (52.9) มาอยู่ที่ 52.1 แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง เป็นรองแค่เดือน ก.ค.เพียงเดือนเดียว (พิจารณาเฉพาะในปีนี้) ซึ่งแสดงว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะชะลอลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยก็ตาม
• ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯในเดือน ก.ค. รวมทั้งหมด 6.54 แสนหน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนซึ่งมียอดรวม 5.92 แสนหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 12.4% เหนือกว่าคาดการณ์ของตลาด ที่เชื่อว่าจะหดตัวเล็กน้อย และยังเป็นยอดขายรวมที่เกินเพดาน 6.5 แสนหน่วยต่อเดือนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ แสดงถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ
• นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แสดงความคาดหวังว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งหน้าที่กรุงโตเกียวปี 2020 จะช่วยฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจของประเทศ และช่วยเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นสองเท่า หรือ 40 ล้านคนในปี 2020 ทั้งนี้ญี่ปุ่นได้กำหนดงบประมาณสำหรับสร้างสนามกีฬาใหม่ รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ด้วยวงเงินกว่า 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาจต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก เพื่อปรับปรุงเครือข่ายคมนาคม โดย BOJ คาดว่า การลงทุนครั้งนี้จะช่วยดันให้จีดีพีของประเทศ เพิ่มขึ้นอีกปีละ 0.3% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
• รัฐบาลจีนเตรียมเปิดทางให้ภาคเอกชน ลงทุนในอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีกว่า 165 โครงการตามแผนปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งที่ 13 เพื่อชดเชยตัวเลขการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งเติบโตอย่างเชื่องช้าเป็นประวัติการณ์
• ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ เพื่อมุ่งปฏิรูปและสร้างกลไกกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ โดยจะจัดตั้ง "คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ" ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติเพื่อกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ และจะจัดตั้ง "บรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ" (กระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด) ซึ่งจะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นรัฐวิสาหกิจ 12 แห่ง เพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ยังต้องจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี พร้อมทั้งสร้างกระบวนการคัดเลือกกรรมการรัฐวิสาหกิจให้โปร่งใส
• สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดยุทธศาสตร์ 3 อุตสาหกรรมอนาคต เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารสำหรับอนาคต อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยานและซ่อมบำรุง ทั้งยังได้ศึกษาประเทศที่เหมาะสมเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ พบว่าอุตสาหกรรมอาหารสำหรับอนาคต คือ บรูไน อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ คือ มาเลเซีย และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยานและซ่อมบำรุง คือ สิงคโปร์
• ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการเบิกจ่ายของภาครัฐในไตรมาส 4 ของปี 2559 ประกอบด้วย 3 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1) เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2560 วงเงิน 31,500 ล้านบาท 2) กระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กทั่วประเทศ ใช้งบประมาณ 23,000 ล้านบาท และ 3) มาตรการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรและองค์กร โดยใช้งบเหลือจ่ายจากปีงบประมาณ 2559 มาดำเนินงาน
Equity Market
• SET Index (23 ส.ค.) ปิดที่ 1,540.06 เพิ่มขึ้น 0.82 จุด หรือ +0.05% มูลค่าซื้อขายรวม 54,660 ล้านบาท โดยตลาดปรับตัวลงในช่วงเช้าตามตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน แต่สามารถฟื้นตัวได้ในช่วงท้ายตลาด เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน ประกอบกับระดับมูลค่าในบางอุตสาหกรรมที่เริ่มตึงตัว ทำให้ตลาดหุ้นไทยทรงตัวในกรอบแคบต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน -644.65 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +987.80 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ +637.29 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป -980.43 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.01% ถึง 0.02% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 115,391 ล้านบาท ในวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท.อายุ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน มูลค่ารวม 80,000 ล้านบาท