TMB Make The Difference กับ CEO คนใหม่
ให้มันเป็นไป...สิ่งที่เห็นและเกิดขึ้นในตลาดหุ้น ในรูปแบบต่างๆตามภาวะ สถานกาณ์ในแต่ละช่วงเวลา เป็นสิ่งที่นักลงทุนจะต้องเข้าใจและเรียนรู้ ปรับปรุงแก้ไข พัฒนาการลงทุนของเราให้สอดคล้อง ลื่นไหลพัวพันไปกับตลาดให้ได้ ในยามบุกก็ใส่ให้เต็มที่ ยามถอยก็ต้องเร็วไม่ชักช้าไม่รักหุ้น เพราะหุ้นไม่ได้รักเรา เราต้องรักเงินในกระเป๋าเราอย่าให้หาย เพื่อรอโอกาสในการบุกรอบต่อไป
การขยับปรับพอร์ตของนักลงทุนมือใหญ่อย่างต่างชาติ ที่ยังคงเน้นทางขายมากกว่าซื้อ เป็นเรื่องของการทำกำไรแล้วก็ปรับพอร์ตโยกเงินออกไปพักในตลาดตราสารหนี้ชั่วคราวก่อนช่วงวันหยุดยาวปลายปี ส่วนกองทุนก็อาศัยจังหวะปรับพอร์ต ในหุ้นที่ถืออยู่ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นมีกำไร ก็ขายทำกำไร แล้วกลับไปช้อนรับซื้อกลับในช่วงที่ราคาย่อลดต่ำลงอีกครั้ง ชวนให้มึนงงสำหรับนักลงทุนรายย่อย ที่ไม่มีอำนาจต่อรองต้านทานการทำเกมส์ของมือใหญ่ได้ ทำได้เพียงเฝ้าติดตาม และจับจังหวะการเข้าลงทุนให้ดี อย่าผลีผลาม คิดเองเออเองโดยปราศจากการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
สำหรับหุ้น TMB ที่กลับมาน่าสนใจเผลอไม่เท่าไหร่ราคาจะกลับมา 3 บาทแล้วหลังก่อนหน้าราคาหุ้นมีแต่สาละวันเตี้ยลงไปป้วนเปี้ยนแถว 2 บาทต้นๆ น่าจะทำเอากระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยต้นทุนระดับ 3 บาทกว่าๆขาดทุนบานเบอะ แต่มาวันนี้ด้วยมุมมองที่เป็นบวกต่อแผน 5 ปีของธนาคารภายใต้การนำของผู้บริหารคนใหม่ คุณปิติ ตัณฑเกษม ที่จะดำรงตำแหน่งในปี 2561 แทนที่ บุญทักษ์ หวังเจริญ โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างรายได้ทั้งดอกเบี้ยจากการเติบโตของสินเชื่อและค่าธรรมเนียมที่จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปัจจุบัน
ซึ่งก็คงต้องรอไปพิสูจน์ฝีมือ CEO คนใหม่ว่าจะทำได้อย่างที่วางแผนได้หรือไม่ ส่วนตอนนี้ราคาที่วิ่งรับความคาดหวังไปแล้วหรือไม่ จะ Sell on Fact หรือป่าวก็ลองตามกันดูครับ อย่างไรก็ตาม TMB ถือได้ว่าเป็นแบงก์ขนาดกลางที่ราคาหุ้นไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ แต่ด้วยการสร้างการรับรู้ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมถึงการกล้าฉีกแนวการให้บริการของแบงก์เป็นเจ้าแรกที่ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน ถอนเงินระหว่างแบงก์ จนแบงก์อื่นๆเริ่มหันมาให้บริการในรูปแบบคล้ายกันเหมือนกัน รวมไปถึงการจับมือเป็นพันธมิตรกับ FWD ที่จะขายประกันชีวิตผ่านช่องทางของ TMB เป็นระยะเวลา 15 ปี ส่งผลให้รับรู้รายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นในระยะยาว
สำหรับท่านที่สามารถทำมาหากำไรจากการสู้หุ้นในรอบนี้ได้ก็ต้องยอมรับในฝีมือเลยทีเดียว ที่สามารถปรับกลยุทธ์และมองทิศทางของตลาดได้อย่างถูกต้อง เข้าลงทุนได้ทุกจังหวะสร้างผลตอบแทนคืนกลับได้ดี ส่วนผู้ที่ยังทำไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดมาก ในเมื่อเราเป็นนักสู้หุ้น เป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้ และมีเป้าหมายที่จะเข้ามาเก็บเกี่ยว สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยกันนั้น ต้องไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้ เก็บจำบทเรียนสิ่งที่ผิดพลาดแล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข รวมถึงสิ่งที่ทำถูก ต้องรู้จักนำมาพัฒนาต่อยอดความสำเร็จต่อไปเรื่อยๆ
การเรียนรู้ในตลาดทุนนั้นไม่มีวันสิ้นสุด ใครที่หยุดเรียนรู้หรือประมาทต่อการลงทุน ย่อมที่จะตามตลาดไม่ทันและสูญเสียโอกาสที่จะทำเป้าหมายให้เป็นจริงได้ แต่ก็มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุน และเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่จะทำให้การลงทุนของเราประสบความสำเร็จ ยังมีพฤติกรรมการลงทุนรูปแบบเดิมๆ เฝ้าแต่เพียรถามว่าจะเล่นหุ้นตัวไหนดี ซื้อหรือขายดี หลงเชื่อข่าวลือข่าวสร้างกระแส ที่ทำให้การลงทุนผิดทิศผิดทาง มีแต่ความเสียหายเรื่อยมา
ดังนั้นการลงทุนในรอบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว ปัจจัยกระทบทั้งในเชิงบวกและลบ สิ่งที่นักลงทุนที่ดีพึงระลึกและปฏิบัติให้ได้อย่างสม่ำเสมอ คือการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเด็นเหล่านั้น ตลอดจนประเมินได้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามอย่างที่เราได้ประเมินเอาไว้หรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องที่เพียรย้ำเสมอให้เราตัดสินใจลงทุนทุกครั้งด้วยการคิด ด้วยเหตุผล จิตใจมั่นคง ปราศจากอารมณ์ และไม่อิงจิตนาการ หากเราประพฤติปฎิบัติได้ ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นเช่นไร เราก็จะพบกับความสำเร็จได้