CWT รุกยกสองพลังงานทดแทน หลังพลาดโรงไฟฟ้าขยะอุตฯ

 

แม้ว่าปัจจุบัน CWT จะยังไม่มีรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนเลย เพราะได้แตกไลน์จากธุรกิจหลักที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหนังสำหรับยานยนต์ หันมารุกพลังงานทดแทน ตามแผนการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ หลังถูกกระทบตลาดรถยนต์ชะลอตัวในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา

 

Money Channel สอบถามไปยังคุณวีระพล ไชยธีรัตต์ เอ็มดี บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) หลังผิดหวังโปรเจ็กต์โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมล่าสุด ว่าบริษัทฯ ยังปักธงเดินหน้าขยายอาณาจักรพลังงานทดแทนต่อไป กับทิศทางหลังจากนี้ที่จะมีอีกหลายโครงการที่พร้อมจะเข้าประมูลต่อเนื่อง

 

โดยเบื้องต้น เขาตั้งเป้าในอีกสองปีข้างหน้าหรือในปี 2561 จะต้องมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 48-60 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าชีวมวล 24 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมและชุมชน 24 เมกกะวัตต์ ที่เหลือเป็นโซลาร์ฟาร์มและอื่นๆ

 

บริษัทฯ มีโครงการแรกที่จะประเดิมรายได้จากธุรกิจพลังงาน คือ การร่วมทุนโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ขนาด 5MW ที่ จ.สมุทรสาคร สัดส่วน 49% ซึ่งจะเริ่มขายไฟฟ้าเดือน ธ.ค.นี้ 

เอ็มดี CWT ยังยืนยันเตรียมความพร้อมเข้าประมูลโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ทางภาครัฐเตรียมประกาศเปิดเป็นทางการประมาณสิ้นปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าบริษัทฯ มีโอกาสได้รับการคัดเลือกสูง จากความพร้อมที่เตรียมไว้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตร ไปจนถึงพื้นที่ในการใช้ก่อสร้าง เป็นต้น

 

ในการรุกธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทฯได้จัดตั้งบริษัท ชัยวัฒนา กรีน เพาเวอร์ (CWTG) ในฐานะบริษัทย่อยขึ้นมาเพื่อดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งหากแผนขยายกำลังผลิตในอีก 2 ปีเข้าตามเป้า ก็น่าจะมีโอกาสจะนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ 

 

ปัจจุบัน CWTG มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหลายโครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลสระแก้ว 9.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เดือนต.ค. ปีหน้า ส่วนโรงไฟฟ้าขยะภาคเหนือ 1 อยู่ระหว่างขั้นตอนรอ TOR (ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง) ในเดือน ต.ค.นี้ ด้วยกำลังการผลิต 9.8 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดจะ COD ในเดือนพ.ค.2561

 

ส่วนอีก 3 โครงการคาดจะได้ความชัดเจนไม่เกินช่วงกลางปี 2560 ได้แก่ :

 

*โรงไฟฟ้าขยะภาคกลาง 2 กำลังการผลิต 9.8 เมกะวัตต์ คาด COD เดือนพ.ค.2561 

*โรงไฟฟ้าขยะภาคเหนือ 2 อยู่ระหว่างการร่าง TOR กำลังการผลิต 9.8 เมกะวัตต์ คาด COD เดือนธ.ค.2562

*และโรงไฟฟ้าขยะภาคกลาง 1 ซึ่งเป็นโรงแฝด กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ คาด COD เดือนธ.ค. ปี 2562 

 

ในปีนี้ คุณวีระพลคาดว่าแนวโน้มรายได้ทั้งปีของ CWT จะทำได้ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1.38 พันล้านบาท ขณะที่กำไรจะมากกว่าในปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 43 ล้านบาท ตามธุรกิจหลักเบาะหนังรถยนต์เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น 

 

สำหรับมุมมองเชิงเทคนิคหุ้น CWT ในระยะสั้น คุณธีรศักดิ์ ธนวรากุล นักวิเคราะห์ด้านเทคนิค “ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)” บอกว่า มีโอกาสปรับตัวลงได้อีก เพราะกราฟทำรูปแบบคล้ายกับ Triple Top ทำให้มีความเสี่ยงในทิศทางขาลง  โดยประเมินจุดรับแถว 3.70-3.50 บาท และจุดต้าน 4.14-4.20 บาท

 

********************************

ทีม Business&Finance, Money Channel