ห้องเม่าปีกเหล็ก

7 บทเรียนทางการเงินจากชายที่ใช้เวลามากกว่า 20 ปีในการสร้างฐานะของตัวเอง

โดย อิคคิวซัง
เผยแพร่ :
54 views

7 บทเรียนทางการเงินจากชายที่ใช้เวลามากกว่า 20 ปีในการสร้างฐานะของตัวเอง

 

1. เกมการเงิน ไม่มีวันจบ

.

บางคนคิดว่าพอมีเงิน 1 ล้าน 10 ล้าน 100 ล้าน แล้วฉันจะมีความสุข ซึ่งมัน “ถูกต้อง” ชีวิตคุณจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เกมนี้มันไม่มีจุดจบที่คุณจะหยุดทุกอย่าง คุณจะยังอยู่ในเกมนี้ต่อไป ตราบใดที่ยังมีชีวิตและต้องใช้เงิน

.

บางคนพอเริ่มมีเงิน ก็คิดไปเองว่าชนะเกมแล้ว เลยไม่ได้บริหารเงิน สุดท้ายกลับไปจนเหมือนเดิม

.

.

2. เรียนรู้ที่จะเลือก “เฉพาะ” โอกาสที่เหมาะสม

.

ในโลกการทำงาน โดยเฉพาะโลกธุรกิจ แต่ละอุตสาหกรรมย่อมมีความยากง่ายแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมซอฟแวร์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ต้นทุนสูง ทั้งต้นทุนทางความรู้ ต้นทุนทางคน ต้นทุนทางเงิน หลายครั้งมันจะมีคนเชิญชวนคุณให้มาทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ คุณต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ตัวเองพร้อมหรือไม่พร้อมรับโอกาสนั้น

.

โอกาสมันก็เหมือนการยกน้ำหนัก หากคุณต้องการพัฒนากล้ามเนื้อ คุณต้องยกให้หนักขึ้นเรื่อยๆ จาก 40kg - 50kg - 60kg - 70 kg แต่หากคุณเลื่อนปริมาณน้ำหนักโดยที่ร่างกายยังไม่แข็งแรงพอ คุณจะจบด้วยการโดนแผ่นน้ำหนักตกใส่ และบาดเจ็บไปอีกหลายปี

.

ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้ที่จะประเมินโอกาสให้เป็น ดูว่ามันต้องใช้อะไรบ้าง และคุณมีวัตถุดิบพร้อมหรือไม่ มิฉะนั้นคุณจะจบด้วยการเจ็บตัวและเสียเวลาพักรักษาตัวไปอีกหลายปี

.

แต่อย่าเข้าใจผิด นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณห้ามตอบรับโอกาสตอนยังไม่พร้อม เพราะชีวิตจริงไม่มีใครพร้อมตลอดเวลาหรอก แต่การไม่พร้อม คุณต้องมีของดีบ้าง ไม่ใช่รับโอกาสโดยที่ไม่รู้อะไรเลย

.

.

3. เป้าหมายคือสร้างเงินให้เร็ว แต่สร้างความมั่งคั่งให้ช้า

.

“ความรวย” และ “ความมั่งคั่ง” คือ 2 สิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับความรวยเคล็ดลับมันอยู่ที่การค้นหา “ยานพหนะ” ที่เหมาะสม ต่อให้คุณทำงานหนักแค่ไหนแต่ถ้าอยู่ผิดที่ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ ดังนั้นอย่ามัวแต่ทำงานหนัก แต่จงแบ่งเวลาบางส่วนไปเสาะแสวงหาโอกาสที่ดีกว่าด้วย

.

ในทางตรงกันข้าม ความ “มั่งคั่ง” เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลานานและไม่สามารถลัดขั้นตอนได้ ในการสร้างความมั่งคั่งคุณต้องใช้เวลาหลักปีหรือ 10 ปี เพราะมันต้องผ่านกระบวนการมากมาย ระยะเวลาที่ยาวนานเป็นสิ่งเดียวที่จะการันตีว่า คุณมีความสามารถที่จะปกป้องความมั่งคั่งของตัวเองเอาไว้ได้

.

.

4. อย่าปล่อยให้เงินหยุดนิ่ง

.

เงินคือพลังงาน และพลังงานไม่ชอบการหยุดนิ่ง มีหลายคนกลัวที่จะจ่ายเงินออกไป ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการหลุดการไหลเวียนของพลังงาน

.

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องจ่ายเงินที่มีออกไปจนหมด จริงอยู่ที่ในช่วงอายุ 20-30 ปี คุณควรเก็บออมและใช้จ่ายเงินส่วนใหญ่ไปกับการลงทุนและพัฒนาตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่ากลัวที่จะจ่ายเงินออกไป

.

หากถึงเวลาต้องจ่าย ก็จงจ่ายมันออกไป โดยไม่ต้องมานึกเสียดาย เพราะยังไงซะเราก็หาเงินใหม่ได้ ขอเพียงแค่มีความรู้ทางการเงิน เพราะมันจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรทำอย่างไร เงินจึงจะไหลเวียนกลับเข้าหาตัวเอง

.

.

5. รักษาความสงบของจิตใจ

.

คนที่ทำงานได้ 50,000 บาทต่อเดือนแต่ใช้เงินเพียง 30,000 บาท ย่อมมีความสุข และมีความเครียดน้อยกว่า คนที่ทำเงินได้ 100,000 ต่อเดือนแต่ใช้เงินไปมากถึง 95,000 บาท

.

โดยเฉพาะคนที่จ่ายเงินเยอะเพราะค่าใช้จ่ายคงที่ อย่างหนี้บ้านหรือรถ บางคนคิดว่ายอมเป็นหนี้เยอะแต่ได้รถดีๆ ขับ ได้บ้านหลังใหญ่ ชีวิตคงจะมีความสุข แต่เชื่อเถอะต่อให้คุณมีบ้านหลังใหญ่ มีรถสุดหรู แต่ถ้าต้องแลกกับการทำงานอย่างหนัก มันก็ไม่คุ้มหรอก

.

ทำงานได้เงินเยอะ แต่สุดท้ายพอถึงต้นเดือน ต้องจ่ายให้ธนาคารไปเกือบหมด คุณจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นทาสของอะไรบางอย่าง

.

.

6. สิ่งที่กำหนดความรวยคือ mindset

.

คุณจะได้เงินมากหรือน้อย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า “คุณสมควรได้เท่าไหร่” แต่มันขึ้นอยู่กับว่า “คุณคิดว่า” ตัวเองสมควรได้เท่าไหร่ เพราะ “ความคิด” จะเป็นตัวกำหนดการกระทำ

.

ต่อให้คุณจะทำงานอย่างหนักมากแค่ไหน แต่ถ้าสมองของคุณ “คิดว่า” ฉันสมควรได้รับเวันละ 400 บาท คุณก็จะได้แค่วันละ 400 บาท

.

แต่หากคุณคิดว่าฉันสมควรได้รับเงินเดือนละ 1 ล้านบาท ต่อให้วันนี้คุณจะยังได้เงินวันละ 400 คุณจะค้นหาทุกวิถีทางจนกว่าได้เงินเดือนละ 1 ล้านบาทขึ้นมาจริงๆ

.

จงจำเอาไว้ว่า “ทัศนคติ” เป็นตัวกำหนด “การกระทำ”

.

.

7. ชื่อเสียงของคุณ จะอยู่กับคุณไปจน “วันตาย”

.

ในการทำเงิน ชื่อเสียงของคุณคือส่วนสำคัญ ดังนั้นให้คิดไว้เสมอว่าสิ่งที่คุณจะทำ จะทำลายชื่อเสียงของตัวเองหรือไม่

.

หากคุณให้คำสัญญาแล้วทำไม่ได้ ผู้คนจะมองคุณเป็นคนปลิ้นปล่อนไปตลอดชีวิต หากคุณจะเริ่มต้นทำธุรกิจสีเทา ชื่อเสียงสีเทานั้นก็จะเกาะคุณไปจนวันตายเช่นกัน และจะไม่มีใครกล้าทำธุรกิจกับคุณเพราะมันจะทำให้พวกเขากลายเป็นคนสีเทาไปด้วย

.

ดังนั้น ก่อนจะลงมือทำอะไรก็ตาม คิดให้ดีก่อนเสมอ

.

 

ที่มา  Facebook The Founder 


อิคคิวซัง