WORK สะสมเรทติ้ง หนุนรายได้โฆษณาเพิ่ม ผลงานจ่อนิวไฮ

WORK สะสมเรทติ้ง หนุนรายได้โฆษณาเพิ่ม ผลงานจ่อนิวไฮ

วอลุ่มค่อยๆ ขยับขึ้นสำหรับหุ้น “เวิร์คพอยท์ฯ” (WORK) ในสัปดาห์นี้ แม้ราคาหุ้นในกลุ่มมีเดียในส่วนที่ทำทีวีดิจิตอลยังมีสัญญาณพักตัว เพราะไม่มีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของผลประกอบการ และการแบกภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานสูง

แต่หุ้น WORK กลับเข้ามาอยู่ในเรดาร์ของโบรกเกอร์อย่างน้อย 2-3 รายที่ระบุถึงในบทวิเคราะห์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามคาดการณ์ว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นอย่างโดดเด่นในไตรมาส 3 นี้ สะท้อนจากราคาหุ้นล่าสุด ที่ส่งสัญญาณรีบาวด์ พร้อมด้วยวอลุ่มเข้าสนับสนุน 129 ล้านบาท

เริ่มด้วยโบรกเกอร์ "คันทรี่กรุ๊ป" ยังคงมีมุมมองเป็นบวกในหุ้น WORK ให้ราคาพื้นฐาน 38 บาท เพราะคาดผลประกอบการในไตรมาส 3 จะเติบโตดีที่สุดในรอบปี ตามปัจจัยด้านฤดูกาลจากงบโฆษณาของลูกค้าจะเพิ่มสูงขึ้น หลังจากผู้บริหารเชื่อมั่นว่าจะสามารถปรับเพิ่มอัตราค่าโฆษณาขึ้นได้ราว 5% จากไตรมาส 2 มาอยู่ที่ 5.2 หมื่นบาทต่อนาที

นักวิเคราะห์มองต้นทุนค่าผลิตรายการและค่าใช้จ่ายต่างๆ คาดว่าจะทรงตัว ทำให้ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้น 17% จากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 156 ล้านบาท แต่ไตรมาส 4 คงต้องมาติดตามว่าจะขาดทุนหรือไม่ เพราะปกติจะมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าตอบแทนพนักงานและผู้บริหาร

โบรกเกอร์รายนี้ มอง WORK มีศักยภาพในการเติบโตในธุรกิจทีวีดิจิตอลได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับ 3 และมี Rating ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มอัตราค่าโฆษณาขึ้นได้อีก โดยในเบื้องต้นมีแผนปรับอัตราค่าโฆษณาขึ้นจากปี 2559 ที่ 5 หมื่นบาทต่อนาที เป็น 6 หมื่นบาทต่อนาทีในปี 2560 หรือเพิ่มขึ้น 20%  ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ และกำไรสุทธิเติบโต “คันทรี่ กรุ๊ป” คาดว่าทั้งปี 2560 กำไรสุทธิ WORK จะเติบโตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเพิ่มขึ้น 52% มาอยู่ที่ 436 ล้านบาท

ด้าน "ทิสโก้" แม้ว่าโดยปกติจะเป็นโบรกเกอร์ที่มีมุมมอง conservative แต่กลับให้ราคาพื้นฐาน WORK ในปี 2560 สูงถึง 54 บาท หลังเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากกำไรจะขึ้นทำจุดสูงสุดในไตรมาส 3 ก่อนจะอ่อนตัวลงในไตรมาสสุดท้าย ด้วยปัจจัยหนุนเรื่องอัตราค่าโฆษณาที่เพิ่มตามเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยไตรมาสละ 4%  และยังเป็นไฮซีซั่นการใช้จ่ายด้านโฆษณา มีอัตราการเช่าเวลาอยู่ที่ 80%

ในช่วงครึ่งปีหลัง นักวิเคราะห์มอง WORK จะมีคอนเทนต์ที่มีเรตติ้งสูง ทำให้สามารถขายแยกรายการได้ซึ่งมีอัตราค่าโฆษณาสูงกว่าค่าเฉลี่ย รวมถึงงาน event ที่จะเพิ่มมากขึ้น นักวิเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิในช่วงเวลา 3 ปีนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ยปีละ 67% จากธุรกิจทีวีดิจิตอลเป็นหลัก

ส่งท้ายจากโบรกเกอร์ค่าย "ดีบีเอส วิคเคอร์ส" นักวิเคราะห์ประเมินราคาพื้นฐาน 45 บาท ด้วยจุดเด่นด้านอัตราการเติบโตสูง โดยเบื้องต้น คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักต่อหุ้นปี2559 เป็น 69% , ปี 2560 เป็น 53%  และปี 2561 ที่ 17%

ส่วนประเด็นในเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจาก กสทช. จะมีการเก็บเงินเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) อยู่ระหว่างการทบทวนจากเดิมที่เป็นอัตราคงที่ คือ 2% ต่อปี จะเปลี่ยนเป็นอัตราก้าวหน้า นักวิเคราะห์มองว่าถ้าหากมีการปรับเปลี่ยนจริง บริษัทฯ ก็จะได้ประโยชน์จากค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวที่ลดลง

********************************

ทีมา Business&Finance, Money Channel