ราคาน้ำมันโลก ดิ่ง 7% หลังสหรัฐฯจ่อปล่อยน้ำมันสำรอง 1 ล้านบาร์เรล/วัน

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาน้ำมันโลกได้ลดลงแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบสัญญาเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ได้ลดลงแตะระดับ 100.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือลดลง 7% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสัญญาเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลงมาอยู่ที่ 105.16 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือลดลง 5.6% หลังปิดตลาดทำการซื้อขายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย
.
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันโลกปรับลดลงนั้น เป็นผลมาจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้ประกาศปล่อยน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)วันละ 1 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นเวลา 180 วัน โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นการปล่อยน้ำมันดิบมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสกัดกั้นการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันโลก
.
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯยังได้เรียกร้องให้ชาติพันธมิตร ซึ่งรวมถึงจีน ปล่อยน้ำมันดิบออกจากคลังให้ได้ 30-50 ล้านบาร์เรล เพื่อเพิ่มอุปทานให้กับน้ำมันโลกและป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
.
การปล่อยน้ำมันออกจากคลังสำรองของสหรัฐฯในครั้งนี้ ได้ทำให้สมาชิกองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เตรียมจัดการประชุมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการปล่อยน้ำมัน โดยในช่วงค่ำของวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย
.
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯในครั้งนี้จะช่วยให้ตลาดน้ำมันโลกสามารถปรับสมดุลได้ในปีนี้ แต่วิธีดังกล่าวไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างถาวร เนื่องจากการปล่อยน้ำมันไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดดุลอุปทานเชิงโครงสร้างได้ นอกจากจะใช้วิธีเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปีเท่านั้น
