เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ 2556 มาจนถึงปัจจุบัน และพึ่งจะเข้าซื้อหุ้นไทยกลับตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 ที่ผ่านมา และซื้ออย่างต่อเนื่องมาจนถึงเมื่อวานนี้ วันที่ 5 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 ทําให้ยอดการขายสะสมสุทธิของนักลงทุนต่างชาติจนถึงเมื่อวานนี้ วันที่ 5 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 เป็นระยะเวลา 6 ปีเศษ เป็นจํานวนทั้งสิ้น -615,540 ล้าน บาท และลดการถือครองหุ้นไทยจาก 33% เหลือ 22% ซึ่งถือว่าตํ่าที่สุดในรอบ 10 ปี
และ ในเมื่อนายกพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ได้รับการเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ วันที่ 5 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 ด้วยเสียงสนับสนุน 500 เสียง จาก 750 เสียง หรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์คือ 500 / 750 = 66.67% และเป็นรัฐบาลเสียงปลิ่มนํ้าด้วยเสียง ส.ส 254 เสียง จากเสียง ส.ส ในสภาผู้แทนราษฏรของไทยทั้งสิ้นจํานวน 500 เสียง ( หรือ 50.80% )
อย่างไรก็ตาม นายกพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชามีทหารคอยให้การสนับสนุนคือพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ( ผู้บัญชาการทหารบก ) ที่ถ้าประเทศไทยเกิดความไม่สงบขึ้น ก็สามารถปฏิวัติได้ทันที และถือว่าเป็นปัจจัยที่สําคัญที่สุดในการบริหารราชการประเทศไทย
เพราะฉะนั้น ในเมื่อการเมืองไทยมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันกับที่ ถ้านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาถือครองหุ้นไทยด้วยสัดส่วนเท่าเดิมคือ 33% ก็น่าที่จะต้องใช้เงินจํานวนเท่ากันคือ 615,540 ล้าน บาท เพื่อเข้าซื้อหุ้นไทย และน่าจะสามารถดันตลาดหุ้นไทยพุ่งไปอยู่ที่ 5,000 จุด จากจุดปิดเมื่อวานนี้ วันที่ 5 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 ที่ 1,648 จุด ได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจนถึงวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตามรายละเอียดการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ ดังนี้ คือ :
ต่างชาติซื้อ/ขายสุทธิ VS ผลตอบแทนประจําวันที่ 5 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 :
สถิติ ต่างชาติซื้อ ( + ) / ขาย ( - ) สุทธิ VS ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย
ปี พ.ศ ต่างชาติซื้อ ( + ) / ขาย ( - ) สุทธิ ( ล้าน บาท ) ผลตอบแทน ( % )
1) 2535 +14,480 +26
2) 2536 +51,195 +88
3) 2537 -30,495 -19
4) 2538 +49,048 -6
5) 2539 +12,287 -35
6) 2540 +55,434 -55
7) 2541 +30,226 -5
8) 2542 -3,134 +35
9) 2543 -33,067 -44
10) 2544 -6,425 +13
11) 2545 +14,337 +17
12) 2546 -24,609 +117
13) 2547 + 5,216 -13
14) 2548 +118,541 +7
15) 2549 +83,445 -5
16) 2550 +55,018 +26
17) 2551 -162,346 -48
18) 2552 +38,230 +63
19) 2553 +81,723 +41
20) 2554 -5,119 -1
21) 2555 + 76,388 +36
22) 2556 -193,911 -7
23) 2557 -36,584 +15
24) 2558 -154,345 -14
25) 2559 +77,927 +20
26) 2560 -25,755 +14
27) 2561 -287,459 -11
28) 2562 ( ถึง ณ.วันที่ 5 มิ.ย ) +4,587 +5
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
2) ในช่วง 10 ปีเศษๆหลังสุดนี้ สรุปตามสถิติข้างต้นแบบไม่ต้องคิดมากให้ปวดหมองว่า " หุ้นไทยขึ้นเพราะพี่หรั่งซื้อ และลงเพราะพี่หรั่งขาย "
3) ตั้งแต่ปี พ.ศ 2556 ถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 ปีกว่า นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยทั้งสื้น -615,540 ล้าน บาท และลดการถือครองหุ้นไทยจาก 33% เหลือเพียง 22% ซึ่งตํ่าที่สุดในรอบ 10 ปี
4) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Index Futuresในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com