กูรูในทางธุรกิจได้สั่งสอนผู้คน ไว้ดังนี้ คือ :
ถ้าอยากประสบผลสําเร็จ ให้ทําอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 สิ่ง คือ ทําในสิ่งที่รู้ดีที่สุด หรือ ทําในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ทํากัน
ตัวอย่างของการทําในสิ่งที่รู้ดีที่สุด คือ ชาว Scotland ทํา Wihsky มาเป็นเวลานานหลายร้อยปีตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ และ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วย Scotch Whisky ยี่ห้อ Johnnie Walker และ Chivas Regal และ อื่นๆ และ ยังคงทําอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยผู้คนทั่วทุกมุมโลกจะรู้จักกันดีว่า ถ้าเป็น Whisky ก็ต้องเป็น Scotch Whisky เท่านั้น
ตัวอย่างของการทําในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ทํากัน คือ Steve Jobs ทํา Iphone และ Ipad และ อื่นๆ จน Apple Inc. ซึ่งก่อตั้งเมื่อ ปี ค.ศ 1976 ในโรงรถ แล้วกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน โดยใช้เวลา 42 ปี เท่านั้นเอง
ผู้โพสต์เองคิดว่าตัวเองน่าจะอยู่ในประเภทแรก คือ ทําในสิ่งที่ตัวผู้โพสต์เองคิดว่าตัวเองรู้ดีที่สุด 3 อย่าง คือ :
1) คาดการณ์สภาวะตลาดหุ้น ตามแนวโน้มการปรับตัวรอบใหญ่ของ Fed Fund Rate ดังนี้คือ :
1.1) Long Set 50 Derivatives ถ้า Fed Fund Rate มีแนวโน้มปรับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ ซึ่งจะทําให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะกระทิง เนื่องจากเงินทุนไหลออกจากตราสารหนี้มายังตลาดหุ้น
1.2) Short Set 50 Derivatives ถ้า Fed Fund Rate มีแนวโน้มปรับตัวเป็นขาลงรอบใหญ่ ซึ่งจะทําให้ตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะหมี เนื่องจากเงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไปยังตราสารหนี้
2) ลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ตามโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐขาขึ้นรอบใหญ่ ซึ่งในที่นี้จะหมายถึง ลงทุนในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างรายตัว หรือ Long อนุพันธ์ของหุ้นของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างรายตัว อย่างไดอย่างหนึ่ง หรือ ทั้งสองอย่าง
3) ลงทุนในธุรกิจถ่านหิน ตามทิศทางเศรษฐกิจจีนขาขึ้นรอบใหญ่ ซึ่งในที่นี้จะหมายถึง ลงทุนในหุ้นกลุ่มถ่านหินรายตัว หรือ Long อนุพันธ์ของหุ้นกลุ่มถ่านหินรายตัว อย่างไดอย่างหนึ่ง หรือ ทั้งสองอย่าง
หมายเหตุ : 1) คําว่า " Set 50 Derivatives " หมายถึง " Set 50 Index Futures หรือ Set 50 Index Options อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ทั้งสองอย่าง "
2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนในสภาวะตลาดกระทิง, ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่, สภาวะตลาดหมี และ ธุรกิจถ่านหินขาขึ้นรอบใหญ่ ได้ใน longtunbysak.blogspot.com
บทความประกอบจากจิม โรเจอร์ เรื่อง หลักการลงทุน ดังนี้ :
ผู้คนต่างถามผมอยู่เสมอว่าลงทุนในอะไรดี ซึ่งผมก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง ผมบอกว่า อย่าฟังผม อย่าฟังใครทั้งนั้น ทางเดียวที่คุณจะเป็นนักลงทุนที่ประสบผลสําเร็จคือการลงทุนในสิ่งที่คุณมีความรู้ดี ทุกคนมีสิ่งที่ตนรู้ดีทั้งนั้น มันอาจจะเป็นรถ แฟชั่น หรืออะไรก็ตาม คุณรู้ดีในเรื่องอะไรสักเรื่อง ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณรู้เรืองอะไรดี ให้คุณถอยมามองดูชีวิตประจําวันของคุณ เมื่อคุณนั่งรอตรวจกับหมอคุณมักจะหยิบนิตยสารอะไรขึ้นมาอ่าน ถ้าคุณเปิดโทรทัศน์คุณมักจะดูรายการประเภทไหน และคุณก็จะรู้ในไม่ช้าว่าคุณสนใจเรื่องอะไรกันแน่ และความรอบรู้ของคุณจะอยู่ในเรื่องใด
ตอนนี้คุณก็พร้อมที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบผลสําเร็จแล้ว ถ้าคุณมีความสนใจเรื่องรถยนต์ ให้คุณอ่านทุกอย่างที่คุณหาได้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ คุณจะรู้ว่าเมื่อไหร่บางสิ่งที่จะทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ดีขนานใหญ่จะเกิดขึ้น จากนั้นให้ตามเรื่องต่อ อ่านเรื่องที่คุณค้นพบให้มากขึ้น มันอาจจะเป็นระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบใหม่ที่กําลังพัฒนาอยู่ เป็นระบบที่เหนือกว่าและถูกกว่าระบบที่กําลังใช้อยู่ และคุณก็รู้ว่าเมื่อมันเข้าสายพานการผลิตเมื่อไหร่ มันจะกินส่วนแบ่งการตลาดขนานใหญ่อย่างแน่นอน หรือมันอาจจะเป็นถนนเส้นใหม่ ผู้คนอาจจะขับรถไปในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน โรงแรมหรือศูนย์การค้าใหม่อาจจะเปิดที่นั่น กลยุทธพื้นฐานคืออยู่ในสิ่งที่คุณรู้แล้วขยายความรู้ออกไป ถ้ามีคนโทรหาคุณแล้วบอกว่า โอ้ พระเจ้า ตอนนี้มีข่าวใหม่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตคอมพิวเตอร์แบบใหม่ คุณต้องไม่ใส่ใจมัน คุณไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รถยนต์คือสิ่งที่คุณรู้ เพ่งพินิจในสิ่งที่คุณรู้และเมื่อคุณเห็นการเปลี่ยนแปลง คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กําลังจะมาก่อนที่ผมจะเห็นนานทีเดียว นานโขกว่าที่คนอื่นในวอลส์สตรีทจะเห็น เพราะรถยนต์เป็นความชื่นชอบของคุณ มันเป็นเรื่องที่คุณนั่งอ่านอยู่ตลอดเวลา