เปิดโผ 3 หุ้นเด่นปันผลสูง
เตรียมให้ผลตอบแทนพุ่งเดือนก.พ.

.
เข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบของรอบปี 65 กันแล้ว ซึ่งนอกเหนือจากตัวเลขงบการเงินแล้ว สิ่งที่นักลงทุนเฝ้ารอคอยนั่นก็คือ “เงินปันผล” โดย นักวิเคราะห์มองว่าหุ้นในดัชนี SETHD ที่มีความเชื่อมั่นสูงที่สุดว่าจะส่งมอบ Total return ที่เป็นบวกได้ในเดือนก.พ.นี้
.
สะท้อนจากมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด มีความเห็นว่า ได้ทำการตรวจสอบ Performance ของดัชนี SETHD นับตั้งแต่การจัดตั้งเมื่อปี 54 เป็นต้นมา พบว่าเดือนกุมภาพันธ์ถือเป็นเดือนที่ให้ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากเดือนเมษายนเท่านั้น โดยให้ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนอยู่ที่ 2.0%
.
ทั้งนี้ หากดูเป็นรายปี จะพบว่าเดือนกุมภาพันธ์ไม่เคยให้ผลตอบแทน Total return ติดลบเลย นับตั้งแต่การจัดทำดัชนี SETHD เป็นต้นมา จะมีก็แต่เพียงปี 63 ที่เกิดเหตุการณ์ Covid เท่านั้น
.
ดังนั้นจากการตรวจสอบ Valuation ณ ปัจจุบันของดัชนีนี้ พบว่ายังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยมีค่า PE / PBV 66 ตํ่าที่สุดเมื่อเทียบกับดัชนีสำคัญอื่นๆ รวมถึงมีระดับ Expected dividend yield สูงกว่าดัชนีอื่นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหลังจากการคำนวณ โดยใช้ข้อมูลตั้งแต่ปี 54 เสร็จสิ้น และคัดเฉพาะหุ้นที่มี Track record 7 ปีขึ้นไป เพื่อความมีนัยสำคัญทางสถิติ
.
โดยปรากฏว่าหุ้นในดัชนี SETHD ที่มีความเชื่อมั่นสูงที่สุดว่าจะส่งมอบ Total return ที่เป็นบวกได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ได้แก่ TISCO, INTUCH, TCAP
.
[คาด TISCO ปันผลปี 65 ที่ 7.20 บาท]
ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นดังกล่าว เริ่มจาก TISCO นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มปี 2566 เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิของ TISCO จะอยู่ที่ 7,614 ล้านบาท โต 5.4% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากแนวโน้มการขยายสินเชื่อที่ดีขึ้น ตามเป้าหมายของบริษัทที่ 5-10%เมื่อเทียบปีก่อน หลังกลับมาใช้นโยบายขยายสินเชื่อเชิงรุก, การขยายสาขาแบรนด์ “สมหวัง เงินสั่ง ได้” ถึงปีละ 200 สาขา (เพิ่มขึ้นมากจาก 50 สาขาในช่วงก่อน COVID-19)
.
และการปรับ Product Mixed ไปเน้นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง และ สินเชื่อจำนำทะเบียน หนุนให้รายได้ดอกเบี้ยยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมมีทิศทางฟื้นตัวในทิศทางเดียวกันกับขนาดพอร์ต โดยเฉพาะกลุ่มนายหน้าประกันที่มักมีการขายพร้อมไปกับสินเชื่อเช่าซื้อ
.
ดังนั้นคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลดำเนินงานของ TISCO หลังบริษัทมีนโยบายขยายสินเชื่อมากขึ้นจากในช่วง 2 ปีก่อน อีกทั้งด้วยระดับ Coverage Ratio ที่สูงถึง 258.8% จากการตั้ง Management Overlay ทำให้แรงกดดันที่จะต้องเร่งตั้งสำรองไม่สูงมาก แม้จะหันไปปล่อยสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 116 บาท และคาดจะจ่ายปันผลปี 65 อีกหุ้นละ 7.20 บาท คิดเป็น Div. Yield สูงถึง 7% (จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง)
.
[คาด INTUCH ปันผลงวดครึ่งหลัง 1.5 บาท]
ถัดมา INTUCH นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ TRADING BUY ราคาเป้าหมาย 81 บาท มีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ INTUCH ที่ 2.61 พันล้านบาท เติบโตเล็กน้อย 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 7%จากไตรมาสก่อน
.
ทั้งนี้หนุนจากส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC (INTUCH ถือหุ้น 40.4%) ที่จะฟื้นตัวเด่น 5%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 19%จากไตรมาสก่อน หลังได้อานิสงส์ รายได้มือถือฟื้นและบาทแข็ง ทั้งนี้ สะท้อนผลกระทบจากการขายเงินลงทุนใน THCOM ทั้งหมดให้ GULF ในช่วงสิ้นปี 65
.
ดังนั้นจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 66-67 ลงเล็กน้อย -1% เหลือ 1.13 หมื่นล้านบาท โต 10%จากปีก่อน และ 1.19 หมื่นล้านบาท โต 5%จากปีก่อน ตามลำดับ โดยคาดปี 66 จะกลับมาโตจากปีก่อน เนื่องจาก ADVANC ที่คาดรายได้บริการจะกลับมาฟื้นตัวเต็มปีผสานกับสัดส่วนลูกค้า 5G เร่งขึ้น แม้ยังคงชอบ INTUCH ในฐานะหุ้นปันผลที่สม่ำเสมอ 4-5 %ต่อปี คาดครึ่งหลังปี 65 จ่ายได้อีก 1.5 บาท/หุ้น แต่ด้วย upside ที่เหลือน้อย จึงปรับลดคำแนะนำเหลือ TRADING BUY จากเดิม BUY
.
[คาด TCAP ปันผลงานครึ่งหลัง 1.9 บาท]
สุดท้าย TCAP ล่าสุดยังไม่มีบทวิเคราห์ปัจจัยพื้นฐาน บทวิเคราะห์เมื่อไม่นานมานี้ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มอง TCAP เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม Dividend Play และแนวโน้มกำไรยังสามารถเติบโตได้ในไตรมาส 4/65 โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 45 บาท และคาดจะจ่ายเงินปันผลจากผลดำเนินงานครึ่งหลังปี 65 อีก 1.9 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Div. Yield 4.6% จึงปรับเพิ่มคำแนะนำ ขึ้นจาก “TRADING” เป็น “ซื้อ”