ห้องเม่าปีกเหล็ก

บลจ. มองบวก "หุ้นไทย"

โดย บุปผาวดี
เผยแพร่ :
661 views

ชี้จังหวะลุย “หุ้นไทย” พื้นฐานแกร่ง-ราคาถูก...

รับศก.ฟื้นตัว-อานิสงส์เปิดปท.-ชัดเจนรัฐบาลใหม่ !!!

.

Fun of Funds: “หุ้นไทย” จบครึ่งปีแรกที่ระดับ 1,503.10 จุด แบบไม่ค่อยสดใสเท่าไรนัก ดิ่งไป -9.92% เป็นหนึ่งในตลาดที่มีผลงานแย่สุดตลาดหนึ่งของโลกในปีนี้เลยทีเดียว

.

ต่างชาติถล่มขายสุทธิไป -1.07 แสนล้านบาท !!!

.

จนไทยกลายเป็นหนึ่งในตลาดที่ถูกในตอนนี้เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว สวนทางกับภาพเศรษฐกิจไทยเองที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดทาง “World Bank” ก็เพิ่งออกมาปรับประมาณการเติบโตของไทยในปีนี้ขึ้นเป็น 3.9% (เดิม 3.6%) และโตได้ 3.6% ในปี24

.

อย่างไรก็ตาม มองไปในช่วงครึ่งหลังของปีตลาดก็ยังคงมีความหวังและมองเชิงบวก ให้เป้าหมายกันตั้งแต่ 1,600 - 1,700 จุด แล้วแต่ค่าย แต่ๆๆ ก็ยังมีกรณีเลวร้ายกดดัชนีรูดไปแตะระดับ 1,400 จุด ได้เช่นกัน แม้โอกาสเกิดขึ้นจะไม่มากก็ตาม

.

แต่ถ้ามองกันกลางๆ ก็ค่อนไปในทางบวกสำหรับ “หุ้นไทย” ในช่วงที่เหลือของปี ตามไปอัพเดทมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญกับทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ พร้อมๆ กันได้เลย

.

“หุ้นไทย” น่าลงทุน-ราคาไม่แพง...ปัจจัยบวกศก.ฟื้นตัว-อานิสงส์เปิดปท.

.

โดย “นิสารัตน์ ชมภูพงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน บลจ.ดาโอ มองว่า “ตลาดหุ้นไทย” มีความน่าสนใจ จากการเติบโตและศักยภาพของเศรษฐกิจไทยที่เติบโตโดดเด่นกว่าประเทศอื่นในปีนี้ คาดว่า GDP ไทยปี23 จะเติบโตที่ระดับ 3.6% และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 3.8% ในปี24 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ตามมาด้วยแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน แม้การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก มีโอกาสในการเข้าสู่ภาวะ “เศรษฐกิจถดถอย” (Recession) รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อตลาด

.

“แต่เมื่อพิจารณาจากการเติบโตอัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียนในไทยปี23 และ 24 ที่คาดว่าโตได้ 6.9% และ 13% ตามลำดับ และปัจจัยเชิงมหภาคของเศรษฐกิจไทย รวมทั้งระดับราคาของ ‘หุ้นไทย’ ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 15.32 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตในรอบ 5 ปี ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นบางกลุ่มที่มีพื้นฐานการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เรามองเป้าดัชนี SET index สิ้นปีนี้ 1,680 จุด ที่ Forward P/E 17.8 เท่า หากจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในเดือนส.ค. นักท่องเที่ยวปี23 ตามคาด 29 ล้านคน และ Fed คงดอกเบี้ย 5.00 -5.25% แต่ในกรณีเลวร้ายการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า นักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้า และ Fed ขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด อาจเห็นหุ้นไทยลงไปที่ระดับ 1,400 จุด ที่ P/E 14.9 เท่า ได้เช่นกัน”

.

สถิติฟ้อง “หุ้นไทย” หลังเลือกตั้ง 4 ครั้งล่าสุด จะบวกเฉลี่ย 4% หลังจากนั้น 3 – 6 เดือน

.

ด้วยแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลก ที่กำลังจะถึงจุดสูงสุด อีกทั้งเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง และแนวโน้มของกำไรบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มหยุดปรับประมาณการลง ทำให้การลงทุนใน “หุ้นไทย” ในธีมที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ เช่น กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก โรงแรม นิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น จึงเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นดีมีศักยภาพของไทยในปีนี้

.

“และหากดูสถิติหุ้นไทยหลังเลือกตั้ง4 ครั้งล่าสุด จะบวกเฉลี่ย 4% หลังจากนั้น 3 – 6 เดือน โดยหุ้นกลุ่มที่ Perform ได้ดีหลังเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มสื่อ, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสื่อสาร ทำให้ปัจจุบันเป็นโอกาสที่ดีในการจะลงทุนในหุ้นไทยในปีนี้”

.

“หุ้นไทย” ต่ำกว่า 1,500 จุด โอกาสเก็บ “หุ้นใหญ่” พื้นฐานดี-ยังมีอัพไซด์ 10-15%

.

เช่นเดียวกับ “ยศกร ฟอลเล็ต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอ็กซ์สปริง ที่ยอมรับว่า ปีนี้ “ตลาดหุ้นไทย” มีความผันผวนจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศโดยทั้งดัชนีหุ้นไทย SET Index และดัชนีหุ้นไทยขนาดกลาง sSET ปรับตัวลดลงกว่า -10% ถือว่า Underperformed หุ้นตลาดเกิดใหม่และหุ้นอาเซียน ปัจจัยกดดันหลักมาจากการที่หุ้นไทยมีสัดส่วนน้ำหนักในหุ้นกลุ่มพลังงานสูง ซึ่งราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการปรับลดคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (Earnings per Share) ของ SET Index นอกจากนี้ปัจจัยเฉพาะตัวเรื่องความกังวลจากภาวะตลาดเชิงลบกรณีการผิดนัดชำระของผู้ออกตราสารหนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่มีมูลค่าสูงลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาในรอบหลายปี รวมถึงการที่หุ้นใหญ่บางตัวติดเกณฑ์ Cash Balance หลายๆ ปัจจัยกดดันหุ้นไทย ด้านดัชนี mai ปรับตัวลดลงกว่า -20% ส่งผลให้ทิศทางตลาดเข้าสู่ขาลงหรือ Bear Market

.

“อย่างไรก็ตาม หากมองภาพรวม ‘หุ้นไทย’ ถือว่าปรับลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว และประเมินว่ามีโอกาสปรับลดลงได้อีกไม่ถึง 10% มองเป็นโอกาสลงทุนเพราะหุ้นไทยยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ที่ระดับดัชนี SET Index ต่ำกว่า 1,500 จุด เป็นโอกาสลงทุนโดยเฉพาะ ‘หุ้นขนาดใหญ่’ พื้นฐานดีที่ราคาจะปรับขึ้นไปได้ 10-15% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า”

.

“หุ้นไทย” ยังอยู่ในช่วงรอ “รัฐบาลใหม่” เข้ามาบริหาร ซึ่งเมื่อทุกอย่างชัดเจนก็น่าจะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับมาได้อีกครั้ง เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยเองยังมีโมเมนตัมในเชิงบวก ที่น่าจะซัพพอร์ตดาวน์ไซด์ของตลาดเอาไว้ได้ ราคาปัจจุบันต้องเรียกว่า “ถูก” ดาวน์ไซด์จำกัด อัพไซด์เปิด ก็เป็นจังหวะในการลงทุนที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

 

 


บุปผาวดี