โดย dave
เผยแพร่ : 
4,750 viewsในช่วงที่ตลาดผันผวน หุ้นปันผลเป็นทางเลือกที่จะสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนสร้างกระแสเงินสดด้วยรายรับจากเงินปันผล ซึ่ง TNN Wealth ได้รวบรวมข้อมูลการจ่ายปันผลของหุ้นใน SET50 เทียบตั้งแต่ปี 2564 และคาดการณ์ปี 2565 คาดการณ์ปี 2566 ซึ่งมีหลายบริษัทที่จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง โดยจะจ่ายระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลัง
.
.
#10อันดับแรกของหุ้นในSET50ที่คาดปันผลสูงสุดในกลุ่ม
1.บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป หรือ TISCO
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 7.5 บาท ให้ผลตอบแทน 7.9%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 8 บาท ให้ผลตอบแทน 8.4%
2.บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 3.80 บาท ให้ผลตอบแทน 7.3%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 3.00 บาท ให้ผลตอบแทน 5.8%
3.บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หรือ LH
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 0.57 บาท ให้ผลตอบแทน 6.4%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 0.62 บาท ให้ผลตอบแทน 6.9%
4.บมจ.ปตท. หรือ PTT
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 2.3 บาท ให้ผลตอบแทน 6.3%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 2.8 บาท ให้ผลตอบแทน 7.7%
5.บมจ.บ้านปู หรือ BANPU
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 0.70 บาท ให้ผลตอบแทน 5.5%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 0.60 บาท ให้ผลตอบแทน 4.7%
6.บมจ.ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ TTB
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 0.07 บาท ให้ผลตอบแทน 5.41%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 0.07 บาท ให้ผลตอบแทน 5.62%
7.บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ หรือ INTUCH
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 3.35 บาท ให้ผลตอบแทน 4.8%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 2.88 บาท ให้ผลตอบแทน 4.1%
8.บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 0.88 บาท ให้ผลตอบแทน 4.7%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 0.88 บาท ให้ผลตอบแทน 4.7%
9.บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ หรือ KCE
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 1.9 บาท ให้ผลตอบแทน 4.4%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 2.10บาท ให้ผลตอบแทน 4.9%
10.บมจ. เอสซีบี เอกซ์ หรือ SCB
-คาดปันผลปี 65 หุ้นละ 4.5 บาท ให้ผลตอบแทน 4.3%
-คาดปันผลปี 66 หุ้นละ 5 บาท ให้ผลตอบแทน 4.8%
.
.
พร้อมด้วยคำแนะนำ "กลยุทธ์เลือกหุ้นปันผลเข้าพอร์ต แบบไม่ติดกับดัก" ในรายการ TNN Wealth จาก "อาภาภรณ์ แสวงพรรค" ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ซึ่งได้ให้เทคนิคการลงทุนในหุ้นปันผลว่า การลงทุนในหุ้นปันผลมีช่วงเวลา จะต้องวิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐานของหุ้นปันผล สภาพคล่อง และเวลาในการซื้อขาย
.
.
ขณะที่กับดักหุ้นปันผล คือ ความคุ้นชินกับการจ่ายปันผลสูงในอดีต เช่นจ่ายถึง 10% และถือมาต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันอาจไม่ดีเหมือนเดิมแล้ว ดังนั้นการซื้อหุ้นปันผลจึงไม่ใชแค่ดูว่าปันผลสูงในอดีตสูงมาตลอดแล้วจะตัดสินใจเข้าลงทุนเลย เพราะมีหลายตัวที่ในอดีตจ่ายได้สูง แต่ปัจจุบันไม่สามารถจ่ายได้เหมือนเดิมแล้วด้วยปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป
.
.
#กลยุทธ์เลือกหุ้นปันผลเข้าพอร์ตแบบไม่ติดกับดัก
1.ดูแนวโน้มธุรกิจ ความสามารถในการทำกำไรได้อย่างยั่งยืน สามารถประเมินเงินปันผลไปในอนาคตได้ว่าจะจ่ายเท่าไหร่ บางธุรกิจอาจมีความผันผวน เช่นสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะต้องดูวัฎจักรของธุรกิจ เช่น ถุงมือยาง ในช่วงการระบาดของโควิดอาจจะดีมาก แต่พอโควิดเริ่มคลี่คลายลงก็อาจะมียอดขายได้ไม่สูงเหมือนเดิม
.
.
2.คอยติดตามข่าวสารข้อมูลว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เช่น กฎเกณฑ์บางอย่าง เช่น การระงับให้หุ้นธนาคารงดจ่ายปันผลในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนจะได้รับผลกระทบจากเงินปันผลที่หายไป ซึ่งประเด็นของกฏเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงอาจถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง
.
.
3.ดูแผนลงทุน เช่น ต้องลงทุนเครื่องจักรใหม่ทำให้บริษัทต้องสำรองเงินไว้ลงทุน จึงอาจจะจ่ายปันผลได้น้อยลง หรือปรับมาจ่ายเป็นหุ้นปันผล
.
.
ปิดท้ายด้วยบทสรุปของหุ้นปันผล คือ หุ้นที่ลงทุนด้วยความคาดหวังจะได้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว และต้องมี Dividend yield สูงในระดับหนึ่งที่คุ้มค่าพอจะลงทุน
