SET ดิ่ง 20 จุด หวั่นงบ Q3/ุ65 ชะลอ-ฝรั่งขายปรับพอร์ต แนวรับ 1,550 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลง 20.36 จุด หรือ 1.28% ทำดัชนีอยู่ที่ 1,569.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,945 ล้านบาท โดยมีหุ้น GULF-DELTA-CPALL-BDMS-AOT ฉุดตลาด

.
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย"ว่า ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลดลงรุนแรง ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกแรงกดดันจากความวิตกกังวลของนักลงทุนที่มองว่าแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ในช่วงไตรมาส 3/65 มีโอกาสชะลอตัวลงในหลายกลุ่ม ประกอบกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเพื่อปรับน้ำหนักการลงทุนของหุ้นในพอร์ต หลังจากในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นในอาเซียนรวมถึงไทยปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยราว 5-6% เทียบกับตลาดหุ้นโลกที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงกว่า 30%
.
โดยคาดว่าดัชนีหุ้นไทยวันนี้ไม่น่าจะหลุดถึงระดับ 1,550 จุด หลังจากปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวรับแรกที่บริเวณ 1,577 จุดไปแล้ว ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ระยะสั้นแนะเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัวหรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวไปก่อน ส่วนระยะกลางรอดูการประกาศงบของบจ.ในช่วงไตรมาส 3/65 ก่อนแล้วจึงพิจารณาเข้าลงทุนหุ้นที่งบออกมาดี
.
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง ซึ่งผิดไปจากความคาดหมายที่คิดไว้ แม้มองว่าปัจจุบันภาวะตลาดยังไม่มีปัจจัยลบที่มีน้ำหนักเข้ามากดดันอย่างมีนัยสำคัญ จึงเชื่อว่าในช่วงที่ดัชนีฯปรับตัวลดลงอย่างนี้มีโอกาสที่จะพลิกกลับมาฟื้นตัวในแถวบริเวณ 1,580 จุดได้ในระยะสั้นๆ พร้อมคาดว่าดัชนีฯคงไม่หลุดถึงระดับ 1,560 จุด จึงให้ระดับดังกล่าวเป็นแนวรับที่สำคัญ
.
ขณะที่ด้านกลยุทธ์การลงทุนนั้น ประเมินว่าในช่วงที่ดัชนีฯย่อตัวแรงๆแบบนี้ เป็นโอกาสทยอยซื้อสะสม ซึ่งกลุ่มหุ้นที่แนะนำในช่วงนี้คือกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ (แบงก์),ท่องเที่ยว,โรงแรม และกลุ่ม Domestic
.
บล.ทิสโก้ มอง SET แกว่งไซด์เวย์ดาวน์หาฐานใหม่ บรรยากาศหุ้นตปท.ยังเป็นลบจากการเร่งขึ้นดบ.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดการเงินยังขาดเสถียรภาพจากการปรับขึ้นของ Bond Yields และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ รอติดตามปัจจัยชี้นำใหม่ สัปดาห์นี้แนะนำติดตามตัวเลขศก.ที่สำคัญ คือ PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของหลายปท. (3 ต.ค. และ 5 ต.ค. ตามลำดับ), ตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (5 ต.ค.) และตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ (7 ต.ค.) แนวรับ 1580-85, 1575 (ปิด GAP เทคนิค) แนวต้าน 1600-1605
.
กลยุทธ์ลงทุน การเทรดดิ้งสั้นเน้นการตั้งรับ ลงซื้อ-ขึ้นขายแบบจำกัดวงเงิน และเลือกเทรดดิ้งเป็นรายตัว / สำหรับพอร์ตลงทุน แนะสะสมช่วงตลาดอ่อนตัว
***********************************