ห้องเม่าปีกเหล็ก

TLI ได้ประโยชน์ Bond yield ขาขึ้น จับตาปลายปีนี้

โดย Khal
เผยแพร่ :
427 views

TLI ได้ประโยชน์ Bond yield ขาขึ้น

จับตาปลายปีนี้มีลุ้นเข้าคำนวณ MSCI

 

.

บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI มีปัจจัยบวกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ราคาหุ้นล่าสุดสามารถยืนเหนือราคาไอพีโอที่ระดับ 16.00 บาทไปแล้ว สะท้อนจากมุมมองของนักวิเคราะห์ที่ต่างออกมาแนะนำ ซื้อ และประเมินแนวโน้มนับจากนี้ยังมีปัจจัยผลักดันให้ผลประกอบการให้เติบโตอย่างโดดเด่น

.

TLI เป็นบริษัทประกันชีวิตที่จัดตั้งโดยคนไทย ที่เปิดดำเนินงานมานานกว่า 80 ปี โดยมีจุดเด่นที่ช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนขาย และถือเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตที่มีตัวแทนประกันมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย รวมถึงมีทีมงานและทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมายาวนาน

.

ล่าสุดบล.กรุงศรี เปิดเผยว่า TLI มี Sentiment บวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปลายปีมีลุ้นได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI และ SET 50 รอบใหม่ แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย IAA Consensus ที่ระดับ 19.30 บาท

.

ส่วนมุมมองของนักวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า TLI มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับ 2 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิตในไทย มีจุดเด่นด้านเครือข่ายตัวแทนที่แข็งแกร่ง มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และ VONB margin มีแนวโน้มสูงขึ้นช่วยเพิ่มมูลค่า VONB, EV ในอนาคต

.

รวมทั้งยังได้ประโยชน์จาก Bond yield ขาขึ้น ประกอบกับธุรกิจประกันชีวิตในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ในอนาคตมีโอกาสขยายธุรกิจในช่องทางธนาคาร รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน และคาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 14.6% (CAGR) ในปีช่วงปี 2565-2567

.

ดังนั้นจึงให้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 20.1 บาท/หุ้น อิง Appraisal value คิดเป็น P/EV ที่ 1.4 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยบริษัทประกันชีวิตในเอเชีย ถือเป็นระดับที่มีความเหมาะสม เพราะมี ROEV ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยฯ และมี APE, EV โตสูงกว่าค่าเฉลี่ยฯ เล็กน้อย

.

ขณะที่ปัจจัยเร่ง คือ Bond yield 10 ปี สหรัฐยังสูงที่ 3.45% หลังตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด ตลาดปรับมุมมองดอกเบี้ยมีโอกาสเพิ่มแรงขึ้น และเงินเฟ้อไทยยังขยับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดที่ 2.68% ซึ่ง Bond yield ขึ้น จะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มฯ ทั้งในเชิง รายได้การลงทุน, การตั้งสำรองเบี้ย รวมถึง มูลค่า EV เพิ่มตาม ROI นอกจากนี้หุ้นมีลุ้นเข้า MSCI ในรอบ พ.ย.- ธ.ค. 65

.

ด้านมุมมองบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ประเมินว่าหุ้นกลุ่มประกันมี Momentum บวกจากการไต่ระดับขึ้นของ Bond Yield ทั่วโลก หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดคาดว่าการประชุมเฟดในวันที่21 ก.ย.มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% หรือ 1.00%

.

โดยคาด TLI กำไรปี 2565 จะเติบโต 25%จากปีก่อน เป็น 1.04 หมื่นล้านบาท จากการฟื้นตัวของเบี้ยประกัน เนื่องจากตัวแทนสามารถให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังผ่านพ้นสถานการณ์ COVID นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยบวกระยะกลาง คาดมีโอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI ซึ่งจะประกาศในช่วงเดือน พ.ย. 2565

.

ทั้งนี้มอง TLI เป็นหุ้นประกันชีวิตที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้นำของการขายประกันผ่านช่องทางตัวแทนที่คาดจะมีการฟื้นตัวค่อนข้างเด่นในช่วงหลัง COVID ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นยังช่วยให้บริษัทมีรายได้จากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นและลดความเสี่ยงในการตั้งสำรองประกันภัยระยะยาว

.

ประกอบกับบริษัทมีแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อปรับองค์กรให้เป็น Data Driven Company คาดจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของบริษัทมีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น หนุนให้ศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทเพิ่มขึ้นในระยะยาว

.

นอกจากนี้ TLI ยังจัดเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีสถานะการเงินแข็งแรง มี CAR 361% สูงกว่าขั้นต่ำ ที่ คปภ. กำหนดไว้ที่ 140% สะท้อนความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้ำมั่นใจในฐานะการเงินของบริษัท ส่วนในแง่ Valuation ประเมินมูลค่าของ TLI โดยอิง P/EV (Embedded Value) ที่ 1.1 เท่า สูงกว่า BLA ที่ซื้อขายด้วย P/EV ที่ 1 เท่า เนื่องจาก TLI มีความแข็งแกร่งของการขายผ่านช่องทางตัวแทนที่สูงกว่า ประกอบกับมีส่วนแบ่งการตลาดสูงกว่า BLA ได้มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 20 บาท มี Upside 26.6% จึง แนะนำ “ซื้อ”

 

 


Khal