ห้องเม่าปีกเหล็ก

นักพัฒนาเริ่มเทสต์ระบบถอน ‘Stake ETH’ การปลดล็อกนี้มีนัยสำคัญต่ออนาคต Ethereum อย่างไร? ชาว Ether ต้องรู้!

โดย Analog
เผยแพร่ :
183 views

นักพัฒนาเริ่มเทสต์ระบบถอน ‘Stake ETH’ การปลดล็อกนี้มีนัยสำคัญต่ออนาคต Ethereum อย่างไร? ชาว Ether ต้องรู้!

 

------------------

กลุ่มนักพัฒนา Ethereum เปิดตัวเครือข่ายสำหรับนักพัฒนา เพื่อใช้ทดสอบระบบการถอนเหรียญ ETH ที่ฝากหรือล็อกไว้โดย Validator จากปัจจุบันยังไม่มีการเปิดให้ใช้งานระบบถอนเหรียญที่ Stake ไว้

.

สำหรับการ Stake เหรียญคริปโทฯ จะคล้ายๆ กับการฝากประจำกับธนาคาร เพื่อรับดอกเบี้ย ซึ่งระบบการฝากหรือล็อกเหรียญไว้นี้เรียกกันว่า "Staking" โดยผู้ฝากจะได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญคริปโทในสกุลเดียวกับที่ฝากในที่นี้คือ ETH

.

ETH ที่ถูกนำมา Stake ไว้จะไม่สามารถถอนหรือนำไปซื้อขายได้ จนกว่าจะครบระยะเวลาตามเงื่อนไขซึ่งการ Stake จะเกิดขึ้นกับบล็อกเชนที่ใช้ฉันทามติแบบ Proof-of-Stake (PoS) โดยผู้ที่นำเหรียญมาฝากก็เท่ากับว่า ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมบนเครือข่ายหรือเรียกสั้นๆ ว่า "Validator"

.

ดังนั้น หากมีการปลดล็อกให้ถอนเหรียญ ETH ที่ฝากไว้ จึงมีนัยสำคัญหลายประการต่ออนาคต Ethereum ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกัน

.

 

เปิดตัวเครือข่ายทดสอบระบบถอนเหรียญ ที่ถูกล็อกไว้บนบล็อกเชน

.

ล่าสุดกลุ่มนักพัฒนา Ethereum ได้ทำการเปิดตัวเครือข่ายเพื่อใช้ทดสอบระบบถอนเหรียญของผู้ตรวจสอบยืนยันธุรกรรมบนบล็อกเชน (Validator) จากปัจจุบัน Ethereum ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งานระบบถอนเหรียญที่ Stake ไว้

.

Marius Van Der Wijden นักพัฒนาของ Ethereum เปิดเผยว่า เครือข่ายของนักพัฒนาจะทำหน้าที่เตรียมความพร้อมให้กับ Ethereum ในการ “เปิดใช้งานระบบถอนเหรียญ” ของผู้ตรวจสอบยืนยันธุรกรรมภายในปีหน้า เมื่อมีการอัปเกรดบล็อกเชนในเวอร์ชั่นที่ชื่อว่า Shanghai

.

ทั้งนี้ การที่ Ethereum ไม่เปิดให้มีระบบถอนเหรียญ ได้สร้างความวิตกกังวลว่าจะเกิดการ “รวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง” หลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนผ่านไปใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake แล้ว ซึ่งในประเด็นนี้ Wijden ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Block ว่า

.

"นี่คือเครือข่ายแรกของนักพัฒนา ที่มีการเปิดระบบให้ถอนเหรียญผ่านซอฟต์แวร์ของ Ethereum ทุกเวอร์ชั่น และถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญ"

.

"อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้สร้างซอฟต์แวร์ตรวจสอบยืนยันธุรกรรมของ Ethereum กลุ่มอื่น ๆ ได้เข้ามาทดสอบระบบถอนเหรียญด้วยการเข้ามาร่วมในเครือข่ายของนักพัฒนา”

.

Wijden กล่าวว่า ผู้สร้างซอฟต์แวร์ตรวจสอบยืนยันธุรกรรมบนบล็อกเชน กำลังทดสอบระบบถอนเหรียญที่ได้ทำการล็อกเอาไว้บนบบล็อกเชน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการอัปเกรด Shanghai

.

เครือข่ายของนักพัฒนาดังกล่าว จะมุ่งเน้นไปที่ระบบถอนเหรียญเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ทำการทดสอบคุณลักษณะอื่น ๆ ที่จะมาพร้อมกับการอัปเกรด Shanghai

.

 

การเปิดระบบถอนเหรียญที่ Stake ไว้บน Ethereum สำคัญอย่างไร?

.

หากย้อนกลับไปดูการอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum ที่ชื่อThe Merge ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านไปใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake นั้น จะมี เงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการอัปเกรดครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงก็คือ “ผู้ใช้งานจะต้องทำการวางเหรียญ ETH” ของตัวเองหรือฝากเหรียญไปรวมกับกลุ่มผู้ใช้งานหลาย ๆ คนเพื่อนำไปล็อกไว้บนบล็อกเชนของ Ethereum ให้ครบตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งวิธีการล็อกเหรียญที่สะดวกที่สุดคือ นำไปฝากไว้กับแพลตฟอร์มที่ให้บริการ Staking เหรียญ Ethereum

.

แม้ว่าในที่สุดแล้วผู้ใช้งานจะทำการล็อกเหรียญ ETH ได้ถึงจำนวนเป้าหมายที่กำหนดไว้เพื่อให้เกิดการอัปเกรด The Merge ได้สำเร็จ แต่ก็มีปัญหาใหม่เกิดขึ้นตามมา เพราะผู้ใช้งานไม่สามารถถอนเหรียญของตัวเองออกจากแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการ Staking ได้ เนื่องจากทางเครือข่าย Ethereum ยังไม่มีการเปิดให้ใช้งานระบบถอนเหรียญ

.

 

หลังอัปเกรด The Merge เกิดข้อครหาเรื่อง “การรวบอำนาจ”

.

หลังการอัปเกรด The Merge ปรากฏว่าบรรดาผู้ให้บริการ Staking เหรียญ Ethereum อย่างเช่น Coinbase, Kraken, Binance, Staked.us, Bitcoin Suisse, stakefish และ Figment ได้กลายมาเป็นผู้ที่ถือครอง Ethereum ไว้ในสัดส่วนมหาศาล!

.

ซึ่งเหรียญเหล่านี้ได้ถูกนำไปฝากไว้กับโหนดของผู้ตรวจสอบยืนยันธุรกรรม ส่งผลให้บุคคลเหล่านี้ มีอำนาจในการตัดสินใจดำเนินการบน Ethereum มากกว่าเจ้าของเหรียญตัวจริงเสียอีก

.

และนี่เองจึงเป็นที่มาว่าทำไมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในชุมชาวชาว Ethereum ได้แสดงความกังวลว่าบล็อกเชนนี้กำลังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการรวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง

.

อย่างไรก็ตาม Ethereum อาจจะสามารถคลี่คลายข้อครหาเหล่านี้ได้ เมื่อมีการเปิดระบบให้ถอนเหรียญที่ถูกล็อกไว้อยู่บนเครือข่ายนั่นเอง เพราะผู้ใช้งานจะสามารถดึงเหรียญ Ethereum ของตัวเองกลับคืนมาจากผู้ตรวจสอบยืนยันธุรกรรมที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมได้

.

 

ถ้าปลดล็อก Staking จะทำให้ผู้ใช้วางเหรียญได้เอง ไม่ต้องฝากคนอื่น

.

นอกจากนี้ ถ้ามีการเปิดระบบถอนเหรียญแล้ว ผู้ใช้งานก็จะสามารถทำสิ่งที่เรียกว่า “การวางเหรียญด้วยตัวเอง” ด้วยการเปิดใช้งานซอฟต์แวร์ตรวจสอบยืนยันธุรกรรมของ Ethereum โดยไม่ต้องพึ่งพาบุคคลภายนอก

.

ซึ่งในการอัปเกรด Shanghai จะทำให้ผู้ใช้งาน สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญ Ethereum ที่ล็อกไว้ในเครือข่ายหรือ stETH ซึ่งเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการ Staking ที่ได้รับความนิยมสูงกลับมาเป็นเหรียญ Ethereum ปกติได้

.

Wijden ระบุว่าปัจจุบัน มีกลุ่มผู้สร้างซอฟต์แวร์ตรวจสอบยืนยันธุรกรรมของ Ethereum จำนวน 6 กลุ่ม ที่ได้เข้าร่วมเครือข่ายของนักพัฒนาแล้ว ได้แก่ Lodestar, Teku, Lighthouse, Nethermind และ Geth

.

.

ที่มา :

https://www.theblock.co/.../ethereum-client-teams-test...

------------------------------------

 

 


Analog