WHA ลั่นผลประกอบการปีนี้นิวไฮ
เผยอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าใหม่กว่า 4,000 ไร่
กางแผน 5 ปี อัดงบลงทุน 5 หมื่นล้านบาท

.
WHA ตอกย้ำแผน 5 ปี วางงบลงทุน 50,000 บาท ลุยขยายธุรกิจไม่หยุด ลั่นปี 2565 ผลงานฟอร์มเด่น ดันรายได้โต 20% เดินหน้าเจรจากับลูกค้ากว่า 30-50 ราย กว่า 3-4 พันไร่ คาดสิ้นปีมียอดขายรอโอน 900-1,000 ไร่ และวางเป้าหมายก้าวเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Tech Company) ในปี 2567 โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
.
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า ในปี 2565 มองเห็นความก้าวหน้าอยู่ 2 ประการ ประการแรกคือ การเปิดประเทศอีกครั้ง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ตามมาในยุคหลังการแพร่ระบาดของ Covid–19 โดยทำให้ได้เห็นการกลับมาของนักลงทุน เห็นได้จากข้อตกลงใหญ่ ๆ และโครงการที่มีมูลค่าเพิ่มต่าง ๆ ของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ
.
ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายของปี 2565 ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ รวมถึงการปรับเป้ายอดขายที่ดินขึ้นเป็น 1,650 ไร่ และคาดว่ารายได้จะคาดผลประกอบการสูงเป็นประวัติการณ์ตั้งเป้าปี 2565 รายได้เติบโต 20% พร้อมกันนี้ยังมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART และWHAIR มูลค่ารวมกว่า 5,400 ล้านบาท ประการที่ 2 คือ การดำเนินการตามแผนการลงทุนระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 50,000 บาท มองว่าไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด
.
ทั้งนี้แนวโน้มปี 2565 เริ่มจากกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ คาดจะเป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ หลังจากผลประกอบการในครึ่งแรกของปีเป็นที่น่าประทับใจ และมีโครงการที่เตรียมส่งมอบในครึ่งหลังของปีอีกหลายโครงการ รวมถึงเปิดตัวอาคารคลังสินค้าและอาคารสำนักงานมูลค่าสูงใหม่ ๆ โดยในช่วงที่เหลือของปี 2565 จะมีการส่งมอบโครงการคลังสินค้าใหม่ ๆ รวมพื้นที่กว่า 51,000 ตร.ม. ประกอบกับเปิดตัวโครงการคลังสินค้าใหม่อีก 2 โครงการ และพื้นที่ส่วนต่อขยายของโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 รวมพื้นที่ 420,000 ตร.ม.
.
ธุรกิจโลจิสติกส์ของดับบลิวเอชเอยังคงมองหา
เทคโนโลยีและนวัตกรรมอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงความร่วมมือกับธุรกิจสตาร์ทอัพต่าง ๆ เพื่อส่งมอบบริการที่มีมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า โดยขอบเขตที่อยู่ระหว่างการศึกษา ได้แก่ คลังสินค้าอัจฉริยะ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้ง และการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
.
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ยังมีสำนักงานให้เช่าระดับเวิลด์คลาส 6 แห่ง ในกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ รวมพื้นที่ 100,000 ตร.ม. ซึ่งรวมถึงดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของบริษัท ในย่านบางนา และ WHA KW S25 โครงการสำนักงานล่าสุด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในราวกลางปี 2566
.
ถัดมากลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม โดยในครึ่งแรกของปี 2565 บริษัทสามารถทำยอดขายที่ดินทั้งในประเทศไทยและเวียดนามได้ถึง 513 ไร่ คาดสิ้นปีมียอดขายรอโอน 900-1,000 ไร่ ขณะที่ปัจจุบันมีการเจรจากับลูกค้า 30-50 ราย กว่า 3-4 พันไร่ ซึ่งมีเข้ามาคุยที่ดินขนาดใหญ่ด้วย
.
โดยในประเทศไทย มีพื้นพร้อมขายกว่า 4,250 ไร่ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมอ ระยอง 36 จนเสร็จสมบูรณ์แล้ว มีพื้นที่ทั้งหมด 1,281 ไร่ ขณะที่การก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายของนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 ขนาด 573 ไร่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2565 และจะเริ่มก่อสร้างนิคมฯดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยองในเดือนตุลาคมนี้
.
ส่วนเวียดนาม ในเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน เฟส 1 ขนาด 900 ไร่ ได้พัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้ว พื้นที่ร้อยละ 76 ของเฟสที่ 1 ได้ปล่อยเช่าให้กับลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้จากการคาดการณ์ความต้องการที่ดินอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น บริษัท จึงเร่งก่อสร้างเฟส 2 ขนาด 2,215 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างนอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังวางแผนที่จะพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรม ขนาด 5,625 ไร่ รวมส่วนต่อขยายในจังหวัดถั่งหัว ซึ่งอยู่ในระหว่างการขออนุมัติโครงการ
.
กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน WHAUP ยังเดินหน้าขยายธุรกิจสาธารณูปโภคทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม พร้อมขยายพอร์ทธุรกิจด้านพลังงานด้วยการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียนที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ โดยWHAUP มีโครงการน้ำที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ 3 โครงการ
.
ขณะที่พลังงานนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง64 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ยังได้มีการลงนามโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กับผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมใหม่อีก 15 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 34 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ โครงการโซลาร์รูฟท็อปของบริษัท ปริ๊งซ์ เฉิงซาน ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการโซล่าร์รูฟท็อปที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่มีกำลังการผลิต 19.4 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยรวมแล้ว สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่ลงนามทั้งหมดของโครงการโซลาร์รูฟท็อปคาดว่าจะสูงถึง 150 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้
.
กลุ่มธุรกิจดิจิทัล เพิ่มศักยภาพธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสให้คนเข้าถึงบริการและโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพได้มากขึ้น
.
ภายในสิ้นปี 2565 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลจะวางไฟเบอร์ออพติคใต้ดิน (FTTx) และพร้อมให้บริการแล้วเสร็จทั้ง 11 นิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอในประเทศไทย และยังมีการให้บริการเช่าเสาโทรคมนาคมสำหรับติดตั้งอุปกรณ์สำหรับรับและกระจายสัญญาณเครือข่าย 3G, 4G, และ 5G ภายในนิคมฯ ของดับบลิวเอชเอ โดยจะดำเนินการสร้างเสาโทรคมนาคมจำนวน 8 ต้นภายในปีนี้ ซึ่งลูกค้าที่จะเช่าเสาโทรคมนาคม ได้แก่ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของไทย เช่น AWN, True และ Dtac ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจดิจิทัล ยังศึกษาและผลักดันการนำนวัตกรรมด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ
.
ดังนั้นด้วยเป้าหมายที่จะก้าวเป็นบริษัทเทคโนโลยี ในปี 2567 ได้สร้างโรดแมพ ที่ประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ส่งเสริมนวัตกรรมในสถานที่ทำงาน การปรับเปลี่ยนให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ตลอดจนการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
.
โดยปัจจุบัน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีการดำเนินการโครงการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างรากฐานด้านดิจิทัลให้กับองค์กร รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลและทักษะด้านนวัตกรรมให้กับพนักงานของบริษัทฯ นอกจากนี้ยังมีการสำรวจเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ โดยมีแผนที่จะเปิดตัว META W เมตะเวิร์สอุตสาหกรรมรายแรก ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของบริษัทในยุคดิจิทัล