GULF - GPSC นำทัพ!!
เด่นที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า

.
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมาเป็นที่น่าสนใจต่อนักลงทุนอีกครั้ง สะท้อนจากปริมาณการซื้อขายที่กลับมาอย่างหนาแน่น หลังจากราคาพลังงานหลักๆ ที่เป็นต้นทุนกลุ่มโรงไฟฟ้าทยอยปรับลง บวกกับค่า Ft ที่ปรับเพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งจะส่งเป็นภาพบวกต่อกลุ่ม หนุนเห็นรอบกำไรฟื้นตัวเด่น
.
มุมมองนักวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน ได้ออกมาเปิดเผยว่า กลุ่มโรงไฟฟ้าราคาหุ้นในกลุ่มตอบรับโมเมนตัมเชิงบวกทยอยเข้ามา ทั้งประเด็นราคาพลังงานผ่านจุดพีค, เงินบาทแข็งค่า และความคืบหน้าแผน PDP ดังนั้นจึงมองว่าทั้ง GULF และ GPSC เป็นตัวเลือกหลัก
.
ราคาพลังงานหลักๆ ที่เป็นต้นทุนกลุ่มโรงไฟฟ้าทยอยปรับลง ซึ่งก๊าซ JKM LNG ปรับลดลงตามราคาก๊าซในยุโรป ขณะที่ราคาถ่านหินปรับตัวลง 2.2% สู่ระดับ 374.5 เหรียญฯ ประกอบกับค่าเงินบาทคาดอยู่ในทิศทางแข็งค่าราว 37.6-37.7 บาทต่อเหรียญฯ เทียบระดับอ่อนค่ามากสุดสัปดาห์ก่อนที่ 38.3 บาทต่อเหรียญฯ (แบบบวกลบ)
.
นอกจากนี้ล่าสุดกระทรวงพลังงานแถลงแนวทางไทยเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น หนึ่งในแผนช่วยได้ คือ แผนพลังงานแห่งชาติ (National Energy Plan 2022) ซึ่งรวมทั้ง 5 แผนพลังงานไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย
.
1.แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP)
2.แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP)
3. แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP)
4.แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan)
5. แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) โดยแผนแต่ละแผนจะเสร็จ จากนั้นจะเข้าสู้ขั้นตอนรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ทั้ง 5 แผนย่อย ก่อนจะประกอบร่างเป็นแผนพลังงานชาติ ภายในไตรมาส 1/66 จากนั้นนำไปใช้ในไตรมาส 2/66
.
“ราคาหุ้นโรงไฟฟ้าที่ผ่านมา ผ่านการซึมซับภาพลบต้นทุนและค่าเงินบาทอ่อนค่าไปมากแล้ว ประกอบกับราคาพลังงานที่ลดลง จะเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า ผสานค่า Ft ที่ปรับเพิ่มขึ้นแล้ว และค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะพลิกเป็นภาพบวกต่อกลุ่ม จะหนุนเห็นรอบกำไรฟื้นตัวเด่น หลังผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3/65” นักวิเคราะห์บล. โนมูระ พัฒนสิน กล่าว
.
ส่วนแผน PDP ที่รัฐฯเร่งผลักดัน โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียนที่มีการออกระเบียบเตรียมการล่วงหน้า หากรวมกับการที่สำนักงาน กกพ. เตรียมเปิดยื่นการเสนอขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 5,203 MW ในช่วง 4-25 พ.ย. 65 จะเป็นบวกต่อหุ้นโรงไฟฟ้าหมุนเวียน (GULF, GUNKUL) ส่วนโรงไฟฟ้าก๊าซคาดจะเปิดลำดับถัดไป
.
ดังนั้นเชื่อว่าตลาดจะดึงสถานะหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ากลับเข้ามาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังผ่านช่วงถูกกดดันหลากหลายปัจจัย ซึ่งล้วนเปลี่ยนมาเป็นปัจจัยหนุนแทนในระยะถัดไป มองตัวเลือกน่าสนใจที่ GPSC (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 84 บาท), GULF (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 55.5 บาท) และ GUNKUL (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.8 บาท)
.
สำรวจพื้นฐานของ 2 หุ้นใหญ่อย่าง GULF และ GPSC
GULF โดยนักวิเคราะห์บล. ดาโอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 50 บาท ปรับประมาณการกำไรปกติปี 65 ลงมาที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 24% จากปีก่อน ลดลงจากประมาณการเดิม 22% สะท้อนราคาก๊าซธรรมชาติที่คาดว่าช่วงปลายปีจะอยู่ราว 550 บาท/ล้านบีทียู (ส่งผลให้ทั้งปี ราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยอยู่ที่ราว 500 บาท/ล้านบีทียู มากกว่าประมาณการเดิมที่คาดราว 450 บาท/ล้านบีทียู) ในขณะที่ค่า Ft ไม่มีการปรับอีกแล้วในปีนี้
.
ส่วนกำไรปกติปี 66 ปรับขึ้นมาที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 40% จากปี 65 เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 2% ปัจจัยลบจากค่าก๊าซระดับสูง (สมมติฐานเฉลี่ยปี 66 ที่ 550 บาท/ล้านบีทียู และFt ทยอยปรับขึ้นตลอดทั้งปี 23 สต./หน่วย) ถูกชดเชยจากการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่โรงไฟฟ้า Jackson Generation 600 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่มรับรู้ รายได้ปลายปีนี้ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการ COD โครงการใหม่ (โครงการหลัก IPP 4 ยูนิต 2,500MW)
.
GPSC โดยนักวิเคราะห์บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 72.00 บาท แม้ระยะสั้นผลประกอบการไตรมาส 3/65 อ่อนแอ และมีความเสี่ยงถูกตลาดปรับลดคาดการณ์กำไร อย่างไรก็ตาม 1.ราคาหุ้นลดลง 44% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน สะท้อนข่าวลบไปมากแล้ว 2.มองไตรมาส 3/65 เป็นจุดต่ำสุด แนวโน้มไตรมาส 4/65 – 2566 ฟื้นตัวต่อเนื่องด้วยการปรับขึ้นค่า Ft และต้นทุนเชื้อเพลิงผ่านจุดสูงสุดในปีนี้ไปแล้ว
.
3.หุ้นน่าสนใจจาก Theme Defensive Play กระทบจำกัดจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนในปีหน้า จึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 72.00 บาท เพื่อลงทุนระยะยาวรับการฟื้นตัวในปีหน้า โดยปรับกำไรปี 2565 – 2566 ลง 20-29% ทำให้ปี 2565 จะมีกำไร 3 พันล้านบาท ลดลง 59% จากปีก่อน และปี 2566 จะอยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% จากปี 2565 เพื่อสะท้อนต้นทุนเชื้อเพลิงสูงกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า