
ตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% หรือ (BEV) มีความคึกคักมากในปี 2565 ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ เริ่มนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายรุ่นเพิ่มมากขึ้น รวมถึงปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกระตุ้นได้มากคือจากนโยบายส่งเสริมรถ EV ของภาครัฐ
.
ด้วยการให้เงินอุดหนุนรถยนต์ และรถกระบะคันละ 70,000-150,000 บาท/คัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาท/คัน รวมไปถึงการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8 % เป็น 2 % และรถกระบะเป็น 0 %
.
มาตรการดังกล่าวทำให้ค่ายรถยนต์ที่นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว สามารถลดราคาลงมาเพื่อดึงดูดใจลูกค้าได้มากขึ้น เช่นเดียวกับผู้เล่นหน้าใหม่อีกหลายค่ายก็โดดร่วมวงด้วยค่าตัวต่ำกว่า 5 แสนบาท หรือน้องใหม่ล่าสุดอย่าง “NETA V” (เนต้า วี) ที่มีขนาดพอเหมาะพอดี มาในราคา 549,000 บาท
.
โดยมีแบ็คหลังอย่าง ปตท. ที่มีปั๊มน้ำมันอยู่ทั่วประเทศ และเริ่มติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าของตัวเองไปหลายแห่งแล้ว ก็น่าจะทำให้ยอดขายแบรนด์นี้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
.
TNN Wealth ได้ลองไปค้นข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อดูว่ายอดจดทะเบียนรถ BEV ที่แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร มีจำนวนเท่าไร เพราะหากจะรับรู้เพียงยอดจำหน่ายของค่ายรถยนต์ที่นำมาเสนอ จะยังไม่ใช่ตัวเลขจริงที่วิ่งกันบนท้องถนน เพราะแม้จะมียอดจองเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีปัจจัยลบที่สำคัญอย่างการซัพพลายชิ้นส่วนสำคัญอย่างชิป หรือเซมิคอนดักเตอร์ ที่ยังขาดแคลนอยู่ ทำให้การส่งมอบจนนำไปสู่การจดทะเบียนอาจจะยังคงต้องรอ
.
เมื่อย้อนดู สถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์ประเภทไฟฟ้า 100% (BEV) 5 ปีย้อนหลัง เริ่มตั้งแต่ ปี 2560- 2564 ก็จะพบว่า ใน 2560 มียอดจดทะเบียนจำนวน 27 คัน ปี 2561 จำนวน 56 คัน ปี 2562 จำนวน 660 คัน ปี 2563 จำนวน 1261 คัน และปี 2564 จำนวน 1935 คัน
.
ส่วนในปีนี้ ปี 2565 นั้นมียอดจดทะเบียนแล้วจำนวน 8,784 คัน (มกราคม – กรกฎาคม) เรียกได้ว่าผ่านมาครึ่งปีก็มียอดแทบจะทะลุหนึ่งหมื่นคันเลยทีเดียว สำหรับเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมายานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,459 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันเมื่อปีก่อน 334.23% แสดงให้เห็นว่าคนไทยเริ่มหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้าล้วนกันมากขึ้น
.
เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทไฮบริดที่ต้องใช้เครื่องยนต์เป็นตัวปั่นไฟ (HEV) ในเดือนกรกฎาคม 2565 จดทะเบียนใหม่ 4,547 คัน เพิ่มขึ้น 142.51% จากเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา และในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 มีรถยนต์ HEV จดทะเบียนใหม่สะสม 37,265 คัน
.
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทไฮบริดแบบเสียบปลั๊กชาร์จได้ (PHEV) ในเดือนกรกฎาคม 2565 มียอดจดทะเบียนใหม่ 775 คัน เพิ่มขึ้น 150.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมยอดสะสม 7 เดือน มีรถยนต์ PHEV จดทะเบียนใหม่สะสม 6,722 คัน เพิ่มขึ้น 63% จากเดือนมกราคม-กรกฎาคมปีที่แล้ว
.
ปัจจุบันสิ้นสุด ณ วันที่ 31 กรกฎาคม มีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV รวมทั้งสิ้น 20,087 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 133.62% รถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV 233,369 คัน เพิ่มขึ้น 26.74 รถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV 37,842 คัน เพิ่มขึ้น 34.09%
.
เรียกได้ว่าขณะนี้ตลาดเมืองไทยมีรถยนต์ที่มีไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยทีเดียว และต้องจับตามองกันว่าตัวเลข ณ สิ้นปีจะมีรถยนต์ไฟฟ้า BEV เพิ่มขึ้นมาอีกเท่าไร เพราะแบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ รวมถึงน้องใหม่ก็เริ่มพร้อมส่งมอบรถให้กับลูกค้ากันแล้ว