KBANK มองหาโอกาสซื้อกิจการแบงก์ในต่างประเทศ-ลุยธุรกิจ AMC

KBANK มองหาโอกาสซื้อกิจการแบงก์ในต่างประเทศ-ลุยธุรกิจ AMC ในจีน

นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยมองว่าการเข้าซื้อกิจการธนาคารจะขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส หากการเข้าซื้อเพื่อให้ได้ใบอนุญาตอาจไม่จำเป็นต้องซื้อธนาคารใหญ่ หรือ การเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน เช่น ในประเทศจีน จะมีธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) ซึ่งเป็นในกลุ่ม Bad Bank ธนาคาร กำลังพิจารณาขอใบอนุญาตใหม่ โดยรูปแบบจะเป็นการรับซื้อหนี้ในประเทศจีน และ ในอนาคตสาขาประเทศจีนของธนาคาร อาจมีหนี้เสียที่ต้องบริหารจัดการหลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ส่วนในเวียดนามจะมีเกี่ยวกับ Consumer Finance ที่ทำธุรกิจลักษณะคล้ายกับเงินติดล้อ

.

ทั้งนี้ ธุรกิจต่างประเทศ ปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น และเริ่มมีกำไรแล้ว หลังเปิดดำเนินงานตามแผน 3 ปี (64-66) โดยปี มีสัดส่วนรายได้ 5% ของรายได้ของธนาคารทั้งหมดภายในปี 66 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.2% หรือ คิดเป็นรายได้ประมาณ 1,400 ล้านบาท จากเป้าหมาย 5% หรือ คิดเป็นเม็ดเงิน 9,000 ล้านบาท และ มีพอร์ตสินเชื่อ 100,000 ล้านบาท มาจากสาขาในประเทศจีน 4,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นเวียดนามและกัมพูชา ส่วนอินโดนีเซียยังไม่มีรายได้ และ ภายในปี 66 จะเปิดสาขาที่ปักกิ่งจากปัจจุบันมี 4 สาขา คือ เฉินตู เซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ และ ฮ่องกง

.

ทางด้านแผนความคืบหน้าการลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยน ประเทศอินโดนีเซีย ผ่าน บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล (KVF) ภายหลังจากการเข้าทำสัญญาขายหุ้นแบบมีเงื่อนไข เพื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 67.50% จากเดิมถืออยู่ที่ 9.9% คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 220 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 7,556 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจากทางการอินโดนีเซีย โดยคาดว่าภายในปลายนี้จะได้รับการอนุมัติ และในต้นต้นปี 66 จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วม เพื่อเปลี่ยนคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง โดย 3 ใน 5 ราย จะเป็นคณะกรรมของ KVF โดยเป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้น รวมถึงมีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (tender offer) เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบของอินโดนีเซีย และ หลังจากนั้นจะเป็นการลงทุนทำระบบทางด้านไอที

.

อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซียจะเจาะตลาดลูกค้าท้องถิ่น และ ลูกค้าจากภายนอกประเทศ โดยจะเน้น 3 ด้าน และ จะเป็นยุทธศาสตร์ขยายธุรกิจ AEC+3 คือ ขยายฐานลูกค้าท้องถิ่นรายใหญ่ในอินโดนีเซีย เพื่อสร้างรายได้ให้กับธนาคาร เพราะอัตราดอกเบี้ยรายใหญ่ในตลาดอินโดนีเซียอยู่ที่ 10% และ มีความเสี่ยงต่ำ

***********************************