นับจากควักเงินไปหลายหมื่นล้านบาทสร้างรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทยไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
ล่าสุด "คีรี กาญจนพาสน์" เจ้าพ่อบีทีเอสได้ฤกษ์จะเซ็นสัญญาใหญ่วันที่ 16 มิ.ย.นี้ หลังผนึกกำลังพันธมิตร จัดตั้งกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ถือหุ้น 75% บมจ.ซิโน-ไทยฯ ยักษ์รับเหมาของตระกูล "ชาญวีรกูล" ถือ 15% ที่เหลือ 10% เป็นของ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ลงขันร่วม 1 แสนล้านบาท ลงทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรีและสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง โมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย
( ภาพ : Realist )
"บีทีเอสเซ็นสัญญาสร้างสายสีเขียวเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ตอนนั้น ลงทุนเองทั้งหมด ส่วนสายสีชมพูกับสีเหลืองนี้ จะเป็นโครงการที่ 2 เป็นการลงทุนแบบ PPP Net Cost รับสัมปทาน 30 ปีเดินรถและบริหารโครงการ"
วันนี้บีทีเอสได้พิสูจน์แล้วว่าโครงการรถไฟฟ้ามีประโยชน์มากต่อคนกรุงเทพฯนำความเจริญและลดความแออัดด้านการจราจรได้ แต่ว่าจากการที่เอกชนลงทุนทั้งงานโยธาและระบบรถ ทำให้เป็นโครงการแรกที่เป็นประสบการณ์ให้รัฐและผู้ลงทุนว่าโครงการอินฟราสตรักเจอร์ ต้องมีรัฐช่วยสนับสนุนงานโยธา เอกชนลงทุนคนเดียวไม่คุ้ม บริษัทมีภาระหนี้และต้องเข้าแผนฟื้นฟู กว่าจะสามารถพลิกกลับมีกำไรได้ในทุกวันนี้
ขณะนี้บีทีเอสเป็นบริษัทเดียวในโลกที่ลงทุนโครงการรถไฟฟ้า ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าที่ลงทุนเองและรับจ้างเดินรถให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) รวม 67 กม. อีก 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 141 กม.รองรับผู้โดยสารกว่า 2 ล้านเที่ยวคน/วัน จากสายสีชมพูและสีเหลือง 64 กม. ส่วนขยายบีทีเอสบางหว้า-ตลิ่งชัน 7 กม.และสายสีทอง 3 กม.
( ภาพ : Realist )
ทั้ง 2 สายรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสีเหลือง ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาท แยกเป็นเงินทุน 28,000 ล้านบาท คิดตามสัดส่วนหุ้นคือบีทีเอส 21,000 ล้านบาท ซิโน-ไทยฯ 4,200 ล้านบาท ราชบุรีโฮลดิ้ง 2,800 ล้านบาท
ที่เหลือ 72,000 ล้านบาท รัฐจะอุดหนุนค่าก่อสร้างไม่เกิน 43,000 ล้านบาท ของสายสีชมพู 20,135 ล้านบาท และ สายสีเหลือง 22,354 ล้านบาท เป็นเวลา 10 ปี หลังให้บริการปี 2564 อีก 30,000 ล้านบาท กู้จากธนาคารกรุงเทพและระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง (บีทีเอสโกรท)
และไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ "คีรี" ยังหนีบซิโน-ไทยฯและราชบุรีโฮลดิ้งลงสนามประมูลรถไฟฟ้าสายอนาคต รวมถึงรถไฟความเร็วสูง ทางคู่และระบบไฟฟ้าในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมให้ความเห็นว่า "นาทีนี้มั่นใจว่าอีอีซีจะเกิด แต่รัฐต้องเร่งลงทุนอินฟราสตรักเจอร์ลำดับแรก เพื่อดึงคนมาลงทุน เรากำลังดูว่ารัฐจะให้เอกชนร่วมลงทุนอะไรบ้าง ทั้งรถไฟความเร็วสูง ทางคู่ ทำได้หมด พร้อมทั้งด้านก่อสร้าง การเงิน แต่รัฐต้องสนับสนุนบ้าง" เป็นสูตรสำเร็จที่ "คีรี" โยนเป็นโจทย์ให้รัฐพิจารณา
ที่มา : ประชาชาติออนไลน์ , Realist