รวยยุคใหม่ต้องเปลี่ยนเงินให้เป็น Asset
คนทั่วไปใช้ความรู้ ความสามารถ และเวลาของตัวเองเพื่อหาเงิน แต่ส่วนใหญ่กลับไม่ได้เงิน หรือบางทีก็ได้เงินที่ไม่มากพอที่จะทำให้รวยได้ แล้วทำไมหาเงินมาได้จึงยังไม่รวยหล่ะ ก็เพราะเงินที่เค้าหามาได้ในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็นค่าใช้จ่ายไง !
- ค่าใช้จ่ายเพื่อความเป็นอยู่
- ค่าใช้จ่ายเพื่อความสะดวกสบายของตัวเองและคอบครัว
- ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง
- ค่าใช้จ่ายเพื่อความโก้หรูมีหน้ามีตา
แต่คุณรู้ไหมว่าวันนี้คนที่รวยเค้าไม่ได้มุ่งหาเงินในตอนต้นครับ แต่เค้ามุ่งหา Asset เค้าเปลี่ยนเงินที่เค้าหามาได้มาเป็น Asset เพื่อวันหนึ่ง Asset ที่เค้ามีจะกลายเป็นเครื่องผลิตเงินให้กับเค้า
คุณว่าเศรษฐีในอดีตเค้ารวยจากอะไร... ใช่ครับ เค้ารวยจากที่ดิน เค้าซื้อที่ในวันที่ใครๆ ก็ยังไม่เห็นค่าหรือไม่มีราคา พอวันหนึ่งมีถนนตัดผ่าน หมู่บ้านมาซื้อ ห้างฯ มาลง วันนี้รวยเป็นมหาเศรษฐี
แต่ก็เหอะ ถ้าเศรษฐีหรือลูกเศรษฐีเหล่านี้ได้เงินจากการขายที่มา แล้วก็เอาไปใช้จ่ายใช้ชีวิตแบบหรูหรา
เก็บเงินไว้กับธนาคารให้เงินเฟ้อมันกินเล่นๆ วันหนึ่งมันก็หมดลง แต่ถ้าเศรษฐีหรือลูกเศรษฐีแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่ายอย่างที่ต้องการ
แล้วเอาอีกส่วนไปสร้าง Asset หรือเครื่องผลิตเงินใหม่ ยังไงๆ มันก็จะไม่มีทางจน หรือรุ่นต่อไปก็จะไม่จน อ่าวแล้วคนอย่างเราๆ ที่ไม่มีพ่อซื้อที่ไว้ให้เหมือนในอดีตหล่ะ
ก็ไม่มีวันรวยได้เลยดิ !!
มีครับ ก็เริ่มสร้าง Asset หรือเครื่องผลิตเงินสิครับ แล้วคุณก็คงต้องถามอีกว่าจะสร้าง Asset อะไรดีล่ะ ? จริงป่ะ จะซื้อที่จะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ที่ตอนนี้ก็แพงโคตร จะซื้อที่ถูกๆ กลางทุ่งกุลาก็ไม่รู้จะได้รวยเมื่อไร ก็จริงอย่างที่คุณบอกครับ
ก่อนอื่นคุณต้องรู้ไซเคิ้ลของ Asset ก่อน วันนี้ไซเคิ้ลของ Asset มันอยู่ที่การเป็นเจ้าของกิจการดีๆ ครับ ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงการเป็นเจ้าของกิจการโดยผ่านการเป็นเจ้าของหุ้น
วันนี้คุณมีเงินหมื่นบาท
- คุณสามารถเป็นเจ้าของกิจการใหญ่ๆของประเทศได้
- คุณมีเงินแม้พันบาทคุณสามารถลงทุนในกองทุนรวม
ที่ลงทุนในกิจการดีๆหลายๆกิจการของประเทศได้
ผมว่าวันนี้โลกเปิดกว้างมากขึ้น ที่จะทำให้คุณได้เป็นเจ้าของ Asset หรือเครื่องผลิตเงิน
แต่คุณต้องศึกษาเรียนรู้ที่จะสร้างมัน คุณสามารถเป็นคนรวยในโลกยุคใหม่ได้ โดยคุณต้องไม่หยุดแค่ทำงานหาเงิน แต่คุณต้องเปลี่ยนเงินที่คุณหามาให้เป็นเครื่องมือหรือ Tool ที่จะช่วยคุณผลิตเงินด้วยครับ`
ขอบคุณเพจ : Financial Times by Mongkol โดย มงคล ลุสัมฤทธิ์ Wealth Designer