#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

เจาะโมเดลธุรกิจ MM กับธุรกิจอาหารขายรสนิยม

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
134 views

 

เจาะโมเดลธุรกิจ MM กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังรายการย้อนหลัง

MM กับธุรกิจอาหารขายรสนิยม
(ที่มาภาพ : นิตยสาร Money & Wealth)

 

ธุรกิจในเครือของ MM


ลักษณะธุรกิจ


บริษัทประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักคือ ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม แบ่งเป็น

 

(1) ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มภายใต้สิทธิแฟรนไชส์ ได้แก่ แบรนด์ Dunkin' Donuts, Au Bon Pain และ Baskin Robbins และ

 

(2) ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ได้แก่ แบรนด์ Greyhound Cafe, Another-hound Cafe และครัวเอ็ม รวมถึงธุรกิจอื่นคือ ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ Greyhound ทั้งนี้ มีบริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มภายใต้สิทธิแฟรนไชส์ของแบรนด์ Dunkin' Donuts เป็นบริษัทแกน

 

"Gross margin ของบริษัทสูงมาก 60.7% แต่พอมาเป็น EBITDA margin เหลือเพียง 8.6%"

 ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล 
(ที่มาภาพ : รายการ Business Model ช่อง Money Channel)

 

ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ


- MM ประกอบธุรกิจร้านอาหารหลายแบรนด์ เช่น ดังกิ้นโดนัท มีสัดส่วน 39% ของรายได้ ร้านอาหารเกรฮาวซึ่งทาง MM เป็นผู้ก่อตั้งสามารถขายเฟรนชายส์ได้ 
.
- การวิเคราะห์ MM ต้องวิเคราะห์ Same Store sale ยอดขายต่อร้าน ว่าเติบโตมากแค่ไหน
.
- การขายหุ้นที่ผ่านมา มีจุดประสงค์ในการนำเงินไปขยายสาขาของร้าน และคืนเงินกู้
.
- สตาร์ของบริษัท คือ เกรย์ฮาวด์คาเฟ่ ถือเป็นจุดขายของเขาเลย
.
- Gross margin ของบริษัทสูงมาก 60.7% แต่พอมาเป็น EBITDA margin เหลือเพียง 8.6% เป็นสะท้อนให้เห็นว่า ค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่สูงมาก
.
- ที่ผ่านมา ดังกิ้นโดนัท ถือว่าเป็นจุดเด่นของบริษัทเลย มีสาขาเยอะ กำไรดี

 

- การประเมินหุ้น MM จะต้องประเมิน P/BV เทียบกับ ROE 
.
- พอร์ตโฟลิโอของ MM มีส่วนหนึ่งเป็นการซื้อเฟรนชายน์ สัดส่วนรายได้ 67% ของรายได้ทั้งหมด มันจะมีปัญหาเรื่องการต่อสัญญากับเจ้าของเฟรนชายหรือเปล่า 
.
- อัตราแลกเปลี่ยน การจ่ายค่าเฟรนชายน์เป็นดอล์ล่าร์ จะมีเรื่องค่าเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง
.

- ค่า P/E ของบริษัทดูไม่ได้ เพราะยังขาดทุนอยู่ 
.
- สรุปว่า ดังกิ้นโดนัทเป็น Cash Cow แต่เกรย์ฮาวด์เป็นสตาร์ของบริษัทที่จะเติบโตได้อีก
.
- การขายเฟรนชายส์ของเกรย์ฮาวด์ เป็นการเติบโตของบริษัทที่น่าสนใจมาก
.
- ผมมองว่าเป็นหุ้น Turn Around

 

"ที่จริงโปรดักส์เป็นระดับ Hi-End การเติบโตมีค่อนข้างจำกัด"  ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
(ที่มาภาพ : รายการ Business Model ช่อง Money Channel)



ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ


- ผมมองว่าบริษัทขายอาหารของกินเล่นประเภท Hi-End นิดนึง ราคาสูง สถานที่หรู ถ้าพูดถืงในตลาดโดนัท เมื่อก่อนดังกิ้นโดนัทมาก่อน มิสเตอร์โดนัทมาทีหลัง แต่กลายเป็นมิสเตอร์มาแซงดังกิ้นได้
.
- ผมมองว่าโดนัท เป็นของกินเล่นที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับราคาพอสมควร ถ้าราคาสูง คนจะเริ่มตระหนักแล้วว่าไม่คุ้มค่า ไม่อยากจะซื้อกิน ส่วนคนที่อยากจะกินโดนัทที่ดีหน่อย มันก็มีนะ เพียงแต่ตลาดมันเล็กกว่า
.
- ต้นทุนในการเช่าสถานที่สูงมาก อยู่ตามห้างดีๆ ค่าเช่าแพง คนกินน้อยก็จะไม่คุ้ม 
.
- บาสกิ้นรอบบิ้น เป็นแบรนด์ที่มีมานานแล้วนะ ผมชอบกินเพราะมันอร่อยมาก แต่ราคาสูงไป เรารู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าเท่าไรที่จะต้องจ่ายแพง สุดท้ายมันก็ล้มเหลวมีการคืนเฟรนชายส์ ไปๆมาๆก็เป็นของ MM
.
- คนกินบาสกิ้นจะเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง คือ คนมีฐานะ คนรวย ตลาดมันเล็กกว่า มันก็เลยเหมือนกับดังกิ้นโดนัทเลย มาร์จิ้นดี แต่โดนค่าเช่าที่จนกำไรแทบไม่เหลือ
.
- เกรย์ฮาวด์ ผมรู้สึกว่ามันดีนะ คือ เขาเป็นคนคิดค้นและสร้างแบรนด์ให้มันดูหรูหราระดับไฮเอ็น คนกินก็เป็นวัยรุ่นที่มีฐาน มีเงินเยอะ จับตลาดบน กำไรดี มาร์จิ้นดี
.
- ผมได้ยินว่าเกรย์ฮาวด์จะไปเปิดที่ต่างประเทศ มันยังเป็นคำถามอยู่ในใจผมว่า การเปิดสาขาที่ต่างประเทศมันดีจริงเหรอ มีแบรนด์ไทยมากมายไปเปิดต่างประเทศแต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ แสดงให้เห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 
.
- โดยรวมแล้วรู้สึกว่าบริษัทขาดทุน ยังไม่เห้นกำไรเลย อนาคตผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจะกำไรเมื่อไร อาจจะเป็นเพราะตอนนี้ขยายสาขา พอขยายมากๆ ลงทุนมากๆเดียวกำไรก็มาเอง แต่เมื่อไร อันนี้ไม่รู้
.
- ที่จริงโปรดักส์เป็นระดับไฮเอ็น การเติบโตนี้ค่อนข้างจำกัด 
.
- รายได้ดี ไม่ได้หมายความว่ากำไรจะดีตามไปด้วย อย่างดังกิ้นโดนัท ที่บอกว่าทำรายได้ให้บริษัทเยอะ แล้วพอเราถามหากำไรละ ปรากฏว่ากำไรก็ไม่ได้มากอะไร รายได้ที่เพิ่มขึ้นแทบจะไม่มีประโยชน์เลย

 

ดังกิ้นโดนัท เป็นเรือธงของบริษัท มีสัดส่วนรายได้ถึง 40%
(ที่มาภาพ : กรุงเทพธุรกิจ)

 

- Au Bon Pain เป็นร้านที่ดีนะ อาหารก็อร่อย แต่ความชอบของเรามันไม่มีประโยชน์ เราต้องดูส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่ชอบไหม นิยมไหม เราอาจจะมองว่า Au bon pain มีอัตรากำไรดี แต่เจอค่าเช่าที่ เจอค่าจ้างเข้าไป กำไรแทบไม่เหลือมันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว 
.
- ขายของแพงระดับไฮเอ็น การขยายไปต่างจังหวัดนี้เป็นเรื่องยากเลยนะ กลายเป็นว่ายิ่งขยายยิ่งขาดทุน มันไม่คุ้ม
.
- เท่าที่ผมดู ธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่เหนื่อยมาก เพราะแข่งขันสมบูรณ์ คนที่ชนะจริงๆต้องเป็นอันดับ 1 เท่านั้น อันดับ 2 ยังไม่ค่อยจะกำไรเลย 
.
- ผมมองหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นอะไรผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันนะ เพราะบริษัทยังขาดทุนอยู่ ยังมองอะไรไม่เห็น 

--------------------------------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model รายการ Money Channel : MM กับธุรกิจอาหารขายรสนิยม


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง