นี้คือบริษัทผู้ให้บริการแอพลิเคชั่นสำหรับการส่งข้อความที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 ได้อย่างน่าประทับใจ แต่ทำไมราคาหุ้นกลับโดน Sale on fact ออกมาได้ ? ยังคงเป็นคำถามอยู่ในใจของนักลงทุนในวันนี้
(ที่มาภาพ : Line Corp.)

ถ้าพูดถึง  LINE Corp คนไทยทุกคนจะต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะเขาคือผู้ให้บริการโปรแกรมแอพลิเคชั่นสำหรับการส่งข้อความที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนของคนไทย(เกือบ)ทุกคน แต่เหมือนกับว่าอะไรอะไรก็ดูเป็นกระแสไปหมดสำหรับในยุคดิจิตอลที่มีคำกล่าวว่า "มาเร็ว ไปเร็ว" หรือว่า LINE จะเป็นแบบนั้นคงต้องรอดูกันต่อไป แต่สำหรับวันนี้ LINE ยังเป็นเบอร์ 1 สำหรับคนไทยเสมอ

แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น ? สำหรับหุ้น LINE Corp ที่ตกลงมามากถึง 12% ถึงแม้ว่าบริษัทจะประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาส 1 ได้อย่างน่าประทับใจ อีกทั้งเปิดตัวพัฒนาการใหม่ๆสำหรับแอพลิเคชั่น และเป้าหมายโครงการที่จะทำในอนาคต ...

ราคาหุ้นที่โดน Sale on fact ออกมาสวนทางกับผลประกอบการที่ออกมาดีมาก
(ที่มาภาพ : google)

สำหรับไตรมาส 1 นี้ LINE มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2559 ที่ผ่านมา สูงถึง 350 ล้านเหรียญ (39 พันล้านเยน) ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมามาจากการโฆษณา และการขายสติ๊กเกอร์เพื่อใช้สำหรับส่งข้อวามจาก Line Store 

อย่างไรก็ตามรายได้จากการให้บริการลดลงมากถึง 25% เป็นตัวบ่งบอกว่าความนิยมกำลังลดลงหรือไม่ ? ซึ่งในยุคดิจิตอลที่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนแล้ว ความนิยมเป็นปัจจัยสำคัญอันดับ 1 เพราะถ้าความนิยมลดลงนั้นหมายถึงรายได้ลดลง ผู้ใช้บริการลดลง กำไรลดลงและส่งผลให้ขาดทุนได้ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาก็บอกเราเป็นเช่นนั้น 

สำหรับ LINE แล้ว ได้มุ่งหน้าพัฒนาแอพลิเคชั่นเพื่อการทำงานและสายธุรกิจมากขึ้น ถือว่าเป็นคุณสมบัติใหม่สำหรับแอพลิเคชั่น และบริษัทยังได้พูดอีกว่าเป้าหมายสำหรับปีนี้ คือการเติบโตเฉพาะรายได้ที่มาจากการให้บริการ ( operating income)จะต้องอยู่ที่ประมาณ 275%

เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ลดลงไป 25% แน่นอนว่ามันแสดงถึงความผิดหวังของนักลงทุน หุ้นจึงลงมากถึง 12% เช่นนี้ 

เข้าตำรา "ยิ่งคาดหวังมากเท่าไร ก็ยิ่งผิดหวังมากเท่านั้น"

นักลงทุนกำลังจับตามองบริษัทที่ใช้เงินก้อนใหญ่ไปกับการลงทุนพัฒนาแอพลิเคชั่นว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ผมอยากจะให้นักลงทุนลืมเรื่องราคาหุ้นไปก่อน และลองมองย้อนดูว่าการลงมากถึง 12% ในวันนี้เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลหรือไม่

ยังไงก็ตาม บริษัทก็ประกาศผลประกอบการออกมาเป็นบวก เราไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้เลย อีกทั้งแอลิเคชั่นก็เป็นที่นิยมอย่างมากใน 4 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย และประเทศไทย ซึ่งมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 13% แต่ยอดผู้ใช้เป็นประจำ (Active Users) อาจจะลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 72% 

นอกจากนี้ LINE Corp ยังได้เปิดตัวคุณสมบัติใหม่ คือ "Line News" ซึ่งไว้สำหรับอ่านข่าวสารที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุด ให้คนรุ่นใหม่ทันกระแส เกาะติดกระแสรอบโลกหรือสิ่งที่ตัวเองสนใจ และยังมีคุณสมบัติใหม่ คือ "LINE Works" เพื่อใช้สำหรับการคุยธุรกิจหรือสื่อสารกันในองค์กร 

เช่น การทำปฏิทินนัดหมาย มีพื้นที่บน Cloud สำหรับแชร์ไฟล์งานระหว่างกัน และ Address books เป็นต้น

LINE เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ LINE Works ซึ่งใช้ในองค์กร แน่นอนว่าไม่ฟรี! มีค่าใช้จ่ายครับ
(ที่มาภาพ : .thepower.co.th)

แน่นอนว่า LINE WORKS จะต้องมีค่าใช้บริการไม่ได้ให้บริการฟรีแน่นอน ซึ่งค่าบริการจะอยู่ที่ประมาณดือนละ 2.70 USD ถึง 8.90 USD ต่อคนต่อเดือน (ประมาณ 95 – 310 บาท) ขึ้นกับแพคเกจที่สมัครใช้งาน สามารถทดลองใช้ฟรีได้ก่อน 30 วัน

นอกจากนี้ Line Pay หรือกระเป๋าตังส์เสมือน (mobile wallet apps) ก็มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ลงทะเบียนใช้กันมากถึง 10 ล้านคนเลยทีเดียว จะเป็นแรงขับเคลื่อนรายได้ให้เติบโตสูงยิ่งขึ้นไปอีก

-------------------------

ที่มา : www.fool.com/
เขียนโดย Seth McNew
แปลและเรียบเรียงโดย SiTh LoRd PaCk