เจาะโมเดลธุรกิจ TNP กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังรายการย้อนหลัง
(ที่มาภาพ : รายการ Business Model ช่อง Money Channel)
ลักษณะธุรกิจ
TNP ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภายใต้ชื่อ "ธนพิริยะ" ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 12 สาขา แบ่งออกเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 11 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขา ซึ่งทุกสาขามีที่ตั้งในจังหวัดเชียงราย (ข้อมูลจาก set)
TNP อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ดี มีการเติบโต แต่เสียตรงที่ว่าการแข่งขันสูง
ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ธุรกิจหลักของเขาอยู่ที่เชียงราย ซึ่งเชียงรายถือว่าเป็นจังหวัดการท่องเที่ยวและเติบโตสูงมาก
- ความเสี่ยงที่ใหญ่สุด คือ เจอกับการแข่งขันที่รุนแรงจากกลุ่มที่ใหญ่กว่า เป็นเรื่องท้าทายของบริษัท
- บริษัทมี Gross margin อยู่ 13% ถือว่าไม่สูงมาก EBIT Margin อยู่ 4.6% แสดงว่าค่าใช้จ่ายในการขายค่อนข้างสูงมาก
- บริษัทแทบจะไม่มีภาระทางด้านดอกเบี้ยเงินกู้
- การบริหารค้าปลีก อยู่ที่สเกล คือเราต้องยอมรับว่าบริษัทที่ใหญ่กว่าย่อมได้เปรียบ พวกเขามี Economy of scale ที่ดีกว่า ตรงนี้เป็นข้อเสียเปรียบของ TNP
- สรุปสั้นๆคือ อยู่ในธุรกิจที่ดี ทำเลดี แต่การแข่งขันสูง
TNP มี PE 40 กว่าเท่า ถ้า Growth อยู่ที่ 40% ตอ่ปี จะตอบสนองความคาดหวังของนักลงทุนได้
(ที่มาภาพ : www.set.or.th)
- การวิเคราะห์กลุ่มค้าปลีก ต้องดูที่ Same Store sale (ยอดขายต่อสาขาเท่าไร?) ซึ่ง TNP พยายามเพิ่มเป็น 15 สาขาถือว่าเล็กไป
- วงจรเงินสด 26 วัน ถือว่านานไปหน่อย แสดงว่าสินค้าบางตัวขายได้ช้า ถ้าลดลงมาให้เหลือสัก 14 วัน จะดีกว่า
- ยอดซื้อต่อบิล อยู่ที่ 364 บาท/บิล เปรียบเทียบกับปี 2013 อยู่ที่ 399 บาท/บิล ลดลงมา 10% ยอดซื้อต่อบิลลดลงเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ดังนันบริษัทต้องขยายสาขาให้มากขึ้น
- สาเหตุที่ยอดต่อบิลลดลง อาจมีสาเหตุมาจากการแข่งขันรุนแรง และมีรายใหญ่ลงมาเล่นกันเยอะ
- ปัจจุบัน TNP มี PE 43 เท่า ROE อยู่ 10% PBV อยู่ 4 เท่า นี้แสดงว่าราคาหุ้นสะท้อนการเติบโตไปแล้ว อาจจะแพงไปหน่อย นักลงทุนให้มูลค่าการเติบโตสูงไปแต่มันก็สูงทั้งกลุ่ม
- การอยู่แต่ในเชียงราย การขยายสาขาเป็นเรื่องที่จำกัด TNP จำเป็นจะต้องขยายไปต่างจังหวัดหรือสถานที่แห่งใหม่
- ถ้าบริษัทสามารถเพิ่ม Growth 40% ต่อปี จะสามารถตอบสนองต่อการให้มูลค่าหุ้นของนักลงทุนได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ราคาหุ้นอาจจะต้องมีการปรับลดลง
ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
"TNP เป็นร้านท้องถิ่น จึงเข้าใจลูกค้าที่ตัวเองอยู่ในระแวกนั้นมากกว่าซึ่งเป็นข้อได้เปรียบ แต่ในธุรกิจค้าปลีกเรากำลังพูดถึงระดับประเทศ ไม่ใช่ระดับท้องถิ่น" ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
(ที่มาภาพ : รายการ Business Model ช่อง Money Channel)
- ธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่จำนวนที่ขายได้เยอะมากน้อยแค่ไหน ยิ่งขายเยอะยิ่งได้เปรียบ
- ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก แทบจะไม่แตกต่างจากยักษ์ใหญ่ค้าปลีก ร้านดูสะอาด สินค้าก็เหมือนๆกัน บางอย่างอาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำเพราะเป็นร้านท้องถิ่น
- ปัจจุบันนี้ลูกค้าเดินเข้าร้าน เขาอาจจะไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเดินเข้าร้านไหนเพราะสินค้าก็เหมือนๆกันอยู่ที่ว่าร้านไหนขายถูกที่สุด แต่ข้อเสียเปรียบ คือ เรื่องของการบริหายภายใน
- การบริหารภายในที่ผมพูดถึง คือ เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วย เช่นการจัดการสินค้า การส่งสินค้า ระบบโลจิสติกส์ พวกนี้เป็นเทคโนโลยีกันหมด ลดต้นทุนได้ บริษัทใหญ่ๆมีเงินทุนสูงเขาสามารถดูได้ว่าสินค้าไหนขายดี ขายไม่ดี ขายไม่ดีเอาออกไป เอาแต่สินค้าดีๆเข้ามาขาย อะไรแบบนั้น บริษัทขนาดเล็กมี 14-15 สาขา ยังเล็กอยู่มันเป็นเรื่องยากมากที่จะลงทุนขนาดพันล้านทางด้านเทคโนโลยี เพื่อให้ได้รายได้พันล้านแบบนี้ คุณต้องมีพันสาขา แปดพันสาขาแบบนี้ทำได้
- ที่นี้ คุณยังเล็กอยู่โอกาสเติบโตก็มีอยู่บ้างแต่ต้องใช้ความพยายามของผู้บริหาร ใช้คนมากกว่าเดิม มาทดแทน
- แต่ร้านท้องถิ่นก็มีข้อได้เปรียบนะ คือพวกเขาเข้าใจความเป็น Local มากกว่า เข้าถึงชาวบ้านท้องถิ่นมากกว่าว่าพวกเขาต้องการอะไร ที่สำคัญสินค้าบางอย่างถูกกว่า
- บริษัทค้าปลีกขนาดเล็กจะโตได้ถึงระดับหนึ่งเท่านั้น ถ้าอยากจะข้ามไปอีกขั้นต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง คือ มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
ราคาหุ้นย้อนหลังของ TNP
- ส่วนหนึ่งของ TNP เป็นค้าส่ง ร้านค้าท้องถิ่นมาซื้อต่อจาก TNP อีกทีหนึ่ง ดูจากยอดบิลอยู่ที่ 400-500 บาท ก็บอกได้ระดับหนึ่งว่าส่วนใหญ่แล้วลูกค้าเน้นซื้อในค้าส่งมากกว่าค้าปลีก คือซื้อไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งค้าส่งเน้นวอลุ่มแต่มาร์จิ้นน้อย แต่ถ้าปลีกมีมาร์จิ้นที่มากกว่า แต่คุณต้องมี 1,000 สาขานะ ถึงจะมี Economy of Scale
- TNP เน้นค้าส่งมากกว่า โอกาสที่จะโตแบบค้าปลีก คือโตแบบโมเดิร์นเทรดจริงๆ จะไหวไหม โตได้ไหม ยังเป็นคำถามอยู่ในใจผมอยู่
- ถ้าระดับท้องถิ่น เขามีข้อได้เปรียบมากแต่ในเรื่องค้าปลีกหรือโมเดิร์นเทรดมันเป็นเรื่องระดับประเทศ ถึงจะได้เปรียบ
- ผมไม่คิดว่าบริษัทจะเติบโตอะไรมากมาย เพราะบริษัทเล็กเกินไป ผมว่าตัวธุรกิจอยู่ใน Nich Market คนเฉพาะกลุ่ม
- ระดับราคานี้ผมว่าราคาหุ้นสูงมาก PE 40 กว่าเท่า แต่จำนวนหุ้นน้อย อยู่ในมือรายย่อยน้อยมาก
--------------------------------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model รายการ Money Channel : TNP โช่ห่วยมาตรฐานโมเดิร์นเทรด