ตราสารที่มี leverage ต้องให้ความสำคัญกับ money management มาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ที่ขาดไม่ได้เลย คือ ความรู้ในตราสารนั้นๆ (29 พ.ย. 2559 / 23.41 น.)
วันนี้ผมแคปหน้าจอตราสารที่ให้ leverage สูงที่สุดในโลกในเวลานี้มาให้ดู นั่นก็คือ ฟิวเจอร์สบนอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งผมต้องการแสดงให้เห็นว่า ตราสารใดๆก็ตามที่ให้ผลตอบแทนกับเรายิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น และต้องการการบริหารจัดการเงินลงทุนของเรามากตามไปด้วย
ถ้าสังเกตจากรูป จะเห็นว่า ผมเปิด long position ในสกุลเงินปอนด์อังกฤษเมื่อเทียบกับเยนญี่ปุ่น ที่ระดับ 140.879 เยน โดยใช้เงินวางหลักประกันเพียงแค่ 140.76 ดอลลาร์
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 141.336 เยน หรือคิดเป็นแค่ 0.3% ผมได้กำไรจากการเปิดสถานะนี้ถึง 404.45 ดอลลาร์
เมื่อกลางวันผมพูดถึง สัญญา SET50 futures ของบ้านเรา ซึ่งมี leverage แค่ราว 1 : 20 ซึ่งอาจรู้สึกเหมือนว่า ความจำเป็นในเรื่องของ money management นั้นไม่ได้มีความจำเป็นสักเท่าไหร่
แต่กับตราสารประเภทฟิวเจอร์สอัตราแลกเปลี่ยนนั้น มี leverage ถึง 1 : 800 ดังนั้น ความสำคัญของ money management จะมาเป็นอันดับแรกในทันที เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ทั้งการวิเคราะห์กราฟ การติดตามข่าวสาร รวมถึงปัจจัยต่างๆที่จะส่งผลต่อมูลค่าของตราสารที่เรากำลังเล่นนั้น เราต้องให้ความสำคัญทั้งนั้น
เมื่อย้อนกลับมาถึง DW ซึ่งผมบอกว่า ความสำคัญของ money management ในการเล่น DW นั้น อาจไม่ได้มากเท่ากับการเล่นตราสารที่มี leverage สูงๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความจำเป็นเอาเสียเลย
นอกจากเรื่องของ money management แล้ว ความรู้ นับเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการเทรดตราสารใดๆก็ตาม โดยเฉพาะตราสารที่มีความซับซ้อนมากกว่าหุ้นธรรมดา
นักลงทุนหลายคนมองอะไรเพียงด้านเดียวอยู่ตลอดเวลา นั่นคือ มองภาพเพื่อต้องการให้ตัวเอง "ได้ประโยชน์" จากการซื้อขายอยู่ตลอดเวลา โดยไม่พยายามถอยห่างออกมาแล้วมองกลับเข้าไปใหม่
เพียงคุณถอยห่างออกมา แล้วมองภาพนั้นใหม่ มองให้ครบทุกด้าน คุณจะเข้าใจว่า ตราสารที่คุณกำลังเล่นอยู่นั้น มันมีกลไกอย่างไร แล้วเข้าใจเหตุผลหลายต่อหลายอย่างว่า "ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น"
ผมยังคงได้รับคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ จากนักลงทุนที่เล่น DW ซึ่งส่วนใหญ่มักจะถามว่า "ทำไมผู้ออกถึงได้เอาเปรียบ" / "ทำไมมันถึงไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้" / "ทำไมราคาปิดตอน ATC ผู้ออกจึงไม่รับซื้อของไปทั้งหมด" / "ทำไมวาง bid ไว้ตั้งนานผู้ออกก็ไม่ยอมขายให้" / "ทำไมราคาหุ้นแม่ขยับแต่ DW ไม่ขยับ"
ท้ายที่สุด คำถามเหล่านี้ มักจะถูกตอบโดยตัวเองไปแล้วว่า "เพราะผู้ออกมันโกง"
หลายครั้งที่ผมพยายามจะอธิบายให้เข้าใจถึงที่มาที่ไปว่า สิ่งที่นักลงทุนเข้าใจนั้นมันไม่ถูกต้อง ให้นักลงทุนถอยออกมาแล้วมองในมุมของผู้ออกบ้าง
เหรียญมีสองด้านเสมอ มีผู้ซื้อ DW ก็ต้องมีผู้ออก DW
นักลงทุนส่วนใหญ่จะคิดเอาแต่ได้ ว่าเมื่อฉันคิดจะเล่น DW แล้ว ฉันจะต้องได้เปรียบ ทุกอย่างมันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้เป๊ะๆ
โดยที่นักลงทุนไม่เคยคิดที่จะมองในฝั่งของผู้ออก DW บ้างเลยว่า ผู้ออกมีหน้าที่อย่างไรบ้างหลังจากที่เขาออก DW มาให้เราเล่น
จริงๆแล้ว เรื่องนี้ผู้ออกเองก็แปลก เวลาที่ผมจะสอนเกี่ยวกับ DW ผมบอกกับทางผู้ออกว่า ผมขอสอนเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันความเสี่ยงของผู้ออกด้วย แต่ผู้ออกกลับขอ "ไม่ให้สอน" ในเรื่องนี้
ผมว่านี่คือปัญหาอย่างหนึ่งระหว่างผู้ออกกับผู้เล่น DW ในเวลานี้ ผู้เล่นก็ระแวงผู้ออก ส่วนผู้ออกก็ไม่อยากให้ผู้เล่นรู้ระบบภายในของเขามากเกินไป
แต่สำหรับความคิดของผม ผู้เล่นควรจะได้รู้ในเรื่องที่เขาควรรู้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องรู้ทั้งหมด แต่การรู้บ้าง จะทำให้ผู้เล่นเข้าใจผู้ออก DW ได้มากขึ้น
ผมไม่ได้เบื่อกับการตอบคำถามเกี่ยวกับ DW นะครับ แต่หากทั้งวงการ DW มีเพียงผมคนเดียวที่จะทำหน้าที่ตอบคำถามเหล่านี้ แล้วหน้าที่ของนักลงทุนที่จะต้องศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเล่นนั้น หายไปไหน?? หน้าที่ของผู้ออก DW ในการให้ความรู้กับผู้เล่น หายไปไหน?
ผู้ออกบางราย ออก DW มาให้มีจุดเด่นอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่คิดจะโปรโมท กลับกลายเป็นผมที่ต้องเป็นคนมานั่งทำความเข้าใจกับ DW แบบที่ผู้ออกรายนั้นออกมา แล้วก็เอามาเขียนให้ทุกคนได้รับรู้
แล้วหน้าที่ของผู้ออก ในการประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนได้รับทราบ และเข้าใจในหลักการออก DW ของตัวเองนั้น หายไปไหน?
ปัจจุบัน ในหมู่ผู้ออก มีคำถามว่า ทำไมนักลงทุนถึงเลือกเล่นแต่ DW ของค่าย 01 13 28 ทั้งๆที่ผู้ออกค่ายอื่นขาย DW ที่ถูกกว่า 3 ค่ายหลัก แต่ทำไม "ไม่มีคนเล่น"
จริงๆแล้ว คำถามนี้ ไม่ควรจะต้องถามใคร นอกเสียจากผู้ออกรายเหล่านั้นควรย้อนถามตัวเองกลับว่า ถ้าสักแต่ออก DW มาให้มันมีชื่ออยู่ในกระดาน แต่ไม่เคยคิดโปรโมท ไม่เคยคิดจัดสัมมนา ไม่เคยคิดจัดอะไรที่จะให้ความรู้กับนักลงทุน
แล้วใครจะรู้จัก DW ของคุณ?
ในด้านผู้เล่น DW ก็เช่นเดียวกันนะครับ ความรู้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เรากำลังเล่นอะไร เราก็ต้องรูัจักกับผลิตภัณฑ์ตัวนั้นให้ดี เราควรต้องเป็นคนศึกษาเอง ไม่ใช่ "ฟังเขาเล่ามา" หรือว่า "เล่นตามเขา"
ผมยึดมั่นในหลักการที่ว่า "หากเราเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังเล่นแล้ว เราจะซื้อขายมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ" และถ้าเราพลาด "เราจะโทษตัวเอง" ไม่ใช่ "โทษผู้อื่น" เหมือนกับที่นักลงทุนหลายท่าน โยนความผิดพลาดของตัวเองว่าเป็น "ความผิดของผู้ออก DW" เหมือนกับที่เป็นอยู่ในเวลานี้
ขอบคุณเพจ : Wattana Stock Page