จากเทรนด์ของสุขภาพมูลค่าถึง 6 แสนล้าน
Image Credit : Prachachat
สำหรับนักลงทุนระยะยาวแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในการเลือกลงทุน คือ แนวโน้มความต้องการ "สินค้าและบริการ" หรือที่เรียกว่า "Demand Trend" ซึ่งตลาดที่ใหญ่มาก และคาดว่าจะใหญ่อีกมากๆๆๆ ในอนาคต 10 ปี คือ
"ธุรกิจเฮลท์แคร์" โดยเฉพาะ การจับตลาดขนาดมหึมาที่ชื่อว่า "สังคมสูงอายุ" วัยที่จะแวะเวียนไปโรงพยาบาล บ่อย ไม่แพ้แวะไปเดินห้าง
เคยได้ยินว่า ตลาดใหญ่มาก แต่นึกไม่ถึงว่า จะใหญ่ขนาดที่เชื้อเชิญผู้เล่นเศรษฐีไทยมากมาย ไสช้างเข้าลงทุนกันขนาด
- โรงพยาบาลกรุงเทพ ... จะลงทุนเปิดให้ครบ 50 สาขา ในปลายปี 2560 จากปลายปี 2559 มี 43-44 สาขา และ พัฒนาโรงแรมปาร์คนายเลิศให้เป็นโครงการศูนย์สุขภาพครบวงจร BDMS Wellness Clinic ศูนย์สุขภาพครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ... มีโครงการบำรุงราษฎร์ เพชรบุรี แคมปัส บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ขนาด 202 เตียง ตั้งบนพื้นที่ 5 ไร่
- โรงพยาบาลรามคำแหง กลางปีที่ผ่านมาเพิ่งได้รับใบอนุญาตเรื่องสิ่งแวดล้อม ทำโรงพยาบาลธัญญเวช ลำลูกกา ปทุมธานี เป็นโรงพยาบาล 211 เตียง
- ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ (อดีตเจ้าของโรงพยาบาลพญาไท) จะสร้างโรงพยาบาล อาร์เอสยู อินเตอร์เนชั่นแนล บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นโรงพยาบาลขนาด 304 เตียง บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ให้เป็นศูนย์การแพทย์ครบวงจรชั้นสูง
- กลุ่มพฤกษา ก็จะรุกธุรกิจสุขภาพ สร้างโรงพยาบาลวิมุตติ ขนาด 250 เตียง บนพื้นที่ 8 ไร่ ย่านสะพานควาย ใกล้ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่
- กลุ่มรพ.ธนบุรี ก็มีโครงการ Northern Medical City ในย่านรังสิต ทำซีเนียร์โฮม โรงพยาบาล ขนาด 200 เตียง อาคารผู้ป่วยพักฟื้นหลังรับการรักษา 200 เตียง และอื่น ๆ ฯลฯ
ผมคิดว่า นี่คือเมกกะโปรเจคต์ ของ Health Care ที่ภาคเอกชนทำกันเอง จะนำพาไทยเป็น Medical Hub ที่ไม่ได้ดูแลเฉพาะคนไทย แต่ดูแลลูกค้าได้ทั่วเอเชีย นี่คือการเตรียมพร้อมรับตลาด 6 แสนล้านในอนาคต
.
Healthcare เป็นหนึ่งในธุรกิจที่คนไทยทำได้ดีค่อนข้างชัดเจนครับ
.
ในแง่ราคาหุ้น ... ค่อนข้างแพงเสมอ พีอีระดับสูง 35 up... ผมคิดว่าการทยอยซื้อทีละน้อยไปเรื่อยๆ และเก็บในช่วงยุบตัวเป็นช่วงๆ น่าสนใจเป็นกลยุทธ์หลัก
มีวิธีประเมินมูลค่าหุ้นแบบเข้าใจง่ายๆ ได้ อย่างไร
หุ้นดูแพง จะกลายเป็นดูไม่แพง ด้วย 2 วิธี
ในวิธีดู "หุ้นถูกแพง" ที่ง่าย และเป็นที่นิยมกันมากคือ ดูค่า P/E หรือ อัตราส่วน Price to Earning
.
คือการเอาราคาหุ้น (Price) มาหารด้วยกำไรต่อปี (EPS หรือ Earnings per Share กำไรสุทธิต่อหุ้น ปกติจะใช้กำไร 4 ไตรมาสล่าสุด)
.
“P/E แสดงถึงจำนวนเงินกี่บาทที่นักลงทุนยอมจ่ายต่อกำไรหนึ่งบาทต่อหุ้น” ... อ้าว งงไหมน่ะ
.
แปลความหมายแบบบ้านๆ คือ
.
หุ้นพีอี 10 แปลว่า เรายินดีซื้อกิจการ ที่มีกำไรต่อปี 1 บาท นี้ ด้วยราคา 10 บาท ... มองอีกมุมหนึ่งคือ ถ้าถือหุ้นตัวนี้ไว้เฉยๆ(และกำไรคงที่) ใช้เวลา 10 ปี คืนทุน
ในยุคเกือบ 20 ปีก่อน เราเคยคิดว่าหุ้น P/E 10 เท่าคือแพง
.
- สมัยหลังวิกฤตต้มยำกุ้งหมาดๆ (2541)... เรามีหุ้นดีๆ P/E 7-9 เท่า เต็มตลาด … ยุคนั้นถ้าเกิน 10 ถูกมองว่าแพงจัง
.
- สมัยหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์หมาดๆ (2551)... เรามีหุ้นดีๆ P/E 12-15 เท่า เต็มตลาด …ยุคนั้นถ้าเกิน 20 เราบอกว่าแพงจัง
.
- สมัยนี้ได้ยินหลายท่านมองว่าไทยเรา แย่ๆๆๆ แต่... ผมคิดว่า เราไม่ได้อยู่ในวิกฤตอะไรนะ ท่านทราบหรือไม่ว่า P/E เฉลี่ยของตลาดหุ้นเราเท่าไหร่ ?
.
ของตลาด SET = 17.2 เท่า
ของตลาด MAI = 90.7 เท่า
.
หุ้นดีๆ ค่าพีอีล้วนสูงทั้งนั้น เช่น
> BDMS เครือร.พ.กรุงเทพ => P/E 36.5 เท่า
> CPALL เครือข่าย 7-eleven => P/E 31.65 เท่า
> AOT สนามบิน => P/E 28 เท่า
ย้ำอีกครั้ง ว่า Asset ... ในระยะยาว ราคาจะแพงขึ้นๆ ... มีความเฟ้อไม่แพ้เงินเฟ้อ ไม่ต่างจากที่ดิน อสังหา พระเครื่อง หรืออัญมณี ที่ราคาซื้อขายแพงขึ้นเรื่อยๆ โดยคนซื้อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะวัดยังไง
แม้ว่า อันที่จริง ราคาที่ดูแพง มันอาจจะไม่แพงก็ได้
.
แต่สำหรับหุ้น มันมีวิธีปรับความ “ดูแพง” ให้ “ดูไม่แพง” ได้ 2 วิธี (ทำให้หุ้น P/E สูง ลดลงได้)
.
1. กำไรต้องโตขึ้น
เช่น หุ้น Good Stock ที่สร้างจุดสูงสุดใหม่ได้เรื่อยๆ เพราะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
.
2. ราคาหุ้นต้องลดลง
เช่น หุ้นที่มีเคยมีความคาดหวังการเติบโตสูงๆ P/E 40-80 เท่า
ลองให้ราคาลงครึ่งนึงสิ ... P/E เหลือ 20-40 เท่าเลย
ถ้าคุณชอบแบบข้อ 1 ... แปลว่า ชอบลงทุนแนว Growth มองหุ้นที่กำไรเติบโตเป็นหลัก ... ข้อแม้คือ เราต้องเลือกหุ้นที่กำไรโตได้จริงๆ ซึ่งหุ้นที่คนเชื่อว่า Growth มักจะมี P/E สูง ... การเลือกผิดมีสิทธิเจ็บได้เช่นกัน
.
.
ถ้าคุณชอบแบบข้อ 2 ... แปลว่า ชอบลงทุนแนว Value มองหุ้นที่ราคาคุ้มค่า (คุ้มกับมูลค่า) ...ข้อแม้คือ ต้องเป็น Good Stock ด้วยนะ (ไม่ใช่หุ้น Bad Stock) จึงจะซื้อตอน Panic ที่ต้นทุนต่ำ แล้วถือ 6-12 เดือน ราคากลับขึ้นไปใหม่ได้
................................
คอร์ส "ติวหุ้น วีไอ by นิ้วโป้ง" ฝึกวิชาขุดหุ้น Good Stock และ Good Price วัดมูลค่าหุ้น ดูฟันโฟล์ว อ่านงบการเงินเป็น และวาง Portfolio ผมสอนเอง 2 วันเต็มอย่างเข้มข้น เสาร์-อาทิตย์ นี้ (25-26 มี.ค.) ที่ Stock2morrow สีลมคอมเพล็กซ์ สนใจ คลิกจร้า
คอร์ส "ติวหุ้นรวยด้วยVI"
วันเสาร์ - อาทิตย์ที่ 25 - 26 มีนาคม นี้..ที่ stock2morrow
ดูรายละเอียด จอง คลิก.. "ติวหุ้นรวยด้วยVI"
สอบถาม โทร. 090 980 2196
Line@ : @stock2morrow
facebook : สัมมนา stock2morrow
*สิทธิพิเศษจองคอร์สสัมมนานี้ ก่อน วันที่ 31 พ.ค. 60
แถมฟรี คอร์สออนไลน์ 100 คำตอบต้องรู้ ดูหุ้นพื้นฐาน Extended Version