เพื่อนนักลงทุนมือใหม่หลายคนเข้ามาในตลาดหุ้นได้ไม่นาน ก็โดนรับน้องไปซะแล้ว แค่ภายในเดือนต้นเดือนมีนาคม 2560 ตลาดหุ้นผันผวนติดลบไป 4 - 5 วันติดต่อ 

ในช่วงที่ตลาดหุ้นตกติดกัน หน้าจอแดงเถือก นักลงทุนมือใหม่ต้องทำยังไง? ลองอ่าน 5 ข้อคิดสั้น ๆ นี้เตรียมรับมือกันกันเลย 

 

1. ตั้งสติ อดทน รอจังหวะ

 

เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้นกำลังตื่นตระหนก (Market Panic) เช่น Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อเงินทุน Fund Flow ไหลกลับสู่อเมริกาได้ จึงสร้างความแตกตื่นให้แก่นักลงทุน สิ่งแรกๆ ที่มือใหม่ต้องทำ คือ การมีสติ อดทน รอดูสถานการณ์ อย่าเพิ่งตกใจไปตามตลาดก่อน

แต่ให้หันกลับมาดูหุ้นในพอร์ตเราก่อนว่า มีปัจจัยลบ หรือข่าวลือที่มากระทบตลาด มันเกี่ยวข้องกับหุ้นเราหรือไม่ มีผลมากน้อยต่อกิจการเพียงใด แล้วปัจจัยนี้จะส่งผลระยะสั้นหรือระยะยาวต่อหุ้นที่ถืออยู่  

 

2. วางจุดตัดขาดทุน Stop Loss  

 

หุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากตลาดหุ้นที่กำลังตกลง จะเกิดแรงเทขายอย่างหนัก จนบางทีทำให้หุ้นติดลบมากกว่า 40-80% ได้ จนทำให้นักลงทุนไม่เหลือเงินไว้ลงทุนอยู่รอดต่อไปได้ในตลาด

ดังนั้นมือใหม่ ควรกำหนดจุด stop loss เอาไว้ให้ชัดเจน ตามแผนการลงทุนที่เราวางไว้ เช่น 5-15% แล้วแต่เรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน หรือ stop loss ตามแนวรับที่มีนัยสำคัญ ณ จุดต่างๆ ของกราฟราคาหุ้น 

"อย่าลืมว่า ถ้าเงินสดหมดกระเป๋า คุณก็หมดโอกาสช้อนซื้อหุ้นดีๆ ตอนมันราคาถูก ! "

 

3. จัดทำ Watch-list หุ้นไว้

 

หุ้นที่พื้นฐานดี ธุรกิจยังเติบโตไปได้ แต่ราคาในระยะสั้นได้โดนเทขายมาเพราะตลาดตกใจ "นักลงทุนอาจจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส" เก็บหุ้นที่สนใจเข้าพอร์ตได้ เนื่องจากมีมูลค่าที่ต่ำกว่าความเป็นจริง หรือมีส่วนเผื่อความปลอดภัย (margin of safety)

หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ยังรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อยู่ หรือมีโมเดลธุรกิจที่มั่งคง ย่อมที่จะได้เปรียบต่อการแกว่งของตลาด ในระยะยาวมีโอกาสฟื้นกลับมาได้มากกว่าหุ้นที่พื้นฐานกิจการไม่แข็งแรง

  

4. ข้อผิดพลาดถือเป็นบทเรียนสำคัญ

 

หาสมุดดีๆ ซักเล่มหนึ่ง เพื่อไว้จดบันทึกข้อมูล-ข้อผิดพลาด ว่าในการเทรดหุ้นในแต่ละครั้งว่า "ทำไมเราถึงซื้อขายหุ้นตัวนี้... เพราะอะไร... มันน่าสนใจ... ดีหรือไม่ดียังไงบ้าง..."

แล้วทำไมถึงผิดพลาด ! ถ้าคุณจดใส่สมุดแล้วคุณจะไม่เอาอารมณ์ชั่ววูบมาตัดสินใจซื้อ-ขายหุ้น เชื่อซิ! เพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำรอยแผลเดิม เจ็บแล้วจำ ! 

 

5. ปิดหน้าจอ ออกไปเที่ยว 

 

เงินลงทุนควรที่เงินเย็นมาลงทุน หรือเป็นเงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กู้ยืมมาเทรดหุ้น หลายคนหมกมุ่นมาก ยิ่งหุ้นตกยิ่งเฝ้าหน้าจอ หวังจะรีบเอาคืนให้ได้ กลายเป็นว่าที่วางแผนมาซะดิบดีโดนอารมณ์ชั่ววูบพาลงเหว

ดังนั้นถ้าคุณวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว จงอย่าหมกมุ่น ปิดจอ ออกไปเที่ยวผ่อนคลาย หาอะไรอร่อยๆ กิน รอให้ความคิดคุณตกผลึก นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จทุกคน ล้วนแล้วแต่วางแผนการลงทุนล่วงหน้ากันทุกคน วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ลองดู

อย่างที่นักลงทุนระดับโลก วอเร็น บัฟเฟตต์ แนะนำว่า "การทำนายตลาดหุ้น แค่ทำให้ผู้ทำนายดูดีขึ้นเท่านั้น น่าประหลาดใจที่นักลงทุนจำนวนมากเชื่อนักทำนายตลาดอย่างมากมาย แต่เมื่อย้อนหลังแล้ว การทำนายตลาดหุ้นนั้นกลับไม่ได้มีการบันทึกผลลัพธ์ของความน่าเชื่อถือเอาไว้เลย"